วันพุธที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2567

เครือข่ายทหารผ่านศึกเมืองเพรียวสระบุรี ร่วมพิธีวางพวงมาลาสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องใน "วันปิยมหาราช"


            เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2567 เวลา 08.30 น.พันโท ถวิล ภู่พงษา ประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกเมืองเพรียวสระบุรี พร้อมประธานเครือข่ายระดับตำบลอำเภอใกล้เคียง พร้อมสมาชิกเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสระบุรี  เข้าร่วม พิธีถวายพวงมาลาสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องใน "วันปิยมหาราช" เพื่อน้อมรำลึก เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมีนายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีเป็นประธานใน พิธี มี คณะข้าราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ รัฐวิสาหกิจ องค์กรสมาคม ภาคเอกชน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และข้าราชการทุกสังกัด เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง ณ บริเวณลานหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หน้าที่ว่าการอำเภอเมืองสระบุรี ตำบลปากเพรียว อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี





            พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระราชโอรส ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชชนนี ทรงพระราชสมภพ เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2396 เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2411ขณะมีพระชนมายุ 15 พรรษา เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 5 และเป็นยุวกษัตริย์พระองค์แรกของพระบรมราชจักรีวงศ์ ดำรงสิริราชสมบัติเป็นเวลา 42 ปีเศษ และเสด็จสวรรคต เมื่อวันที่23 ตุลาคม 2453 สิริพระชนมายุ 57 พรรษา





















            พระองค์ทรงปฏิรูปการปกครอง โดยจัดตั้งเป็นกระทรวง 12 กระทรวง ในส่วนภูมิภาค ได้จัดตั้งเป็นจังหวัด อำเภอ และตำบล ทรงจัดรูปแบบการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นรากฐานและแนวทางการพัฒนาประเทศสืบต่อมา และเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2448 พระองค์ทรงได้ประกาศให้เลิกระบบทาสทุกประเภท โดยไม่เสียเลือดเสียเนื้อ ทรงดำเนินวิเทโศบายอย่างชาญฉลาด สามารถรักษาเอกราชอธิปไตยของไทยไว้ได้ ทรงตั้ง “โรงพยาบาลวังหลัง” หรือ “โรงพยาบาลศิริราช” ทรงตั้งสภาอุณาโลมแดง หรือสภากาชาดไทย ทรงสร้างสถานพยาบาลขึ้นที่ตำบลสระปทุม ปัจจุบันคือ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ พระราชกรณียกิจที่ได้ทรงปฏิบัติ ตลอดรัชสมัยของพระองค์นั้น มีอยู่เป็นอเนกอนันต์ ซึ่งพสกนิกรชาวไทยทั้งปวง ต่างประจักษ์และซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ไม่มีวันเสื่อมคลาย และต่างพร้อมกันเทิดพระเกียรติ ถวายพระราชสมัญญานามว่า “สมเด็จพระปิยมหาราช” หมายถึง “พระมหากษัตริย์อันเป็นที่เคารพรักของประชาชน”
































ร.ต.สุประวีณ์  บุญธิคำ บรรณาธิการข่าว รายงาน




 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น