สื่อมวลชนนักข่าวเกษตรนานาชาติ จาก 13 ประเทศ เยี่ยมชมฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค ส่งเสริมความร่วมมือด้านการเกษตรไทย-เดนมาร์ก เน้นย้ำการพัฒนาเกษตรยั่งยืน
เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2567 นายสมพร ศรีเมือง ผู้อำนวยการ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรีและคณะผู้บริหาร อ.ส.ค. ได้ให้การต้อนรับ นายเฮนนิ่ง ฮ้อย นุก่อ (Mr. Henning Hoy Nyaard) อัครราชทูตที่ปรึกษาการเกษตร อาหาร และประมง จากสถานเอกอัครราชทูตเดนมาร์ก และคณะสื่อมวลชนนักข่าวเกษตรนานาชาติจาก 13 ประเทศทั่วโลก อาทิ ออสเตรเลีย สโลวีเนีย เดนมาร์ก สโลวีเนีย เบลเยียม สหรัฐอเมริกา ออสเตรีย สเปน ญี่ปุ่น เบลเยียม เยอรมนี และไทย ที่เดินทางมาเยี่ยมชมฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการที่แสดงถึงความร่วมมือที่แข็งแกร่งและยาวนานระหว่างประเทศไทย และราชอาณาจักร เดนมาร์ก ในด้านการพัฒนาการเกษตรและอุตสาหกรรมน้ำนมที่ยั่งยืน
นายสมพร ศรีเมือง ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) กล่าวว่า เพื่อร่วมผลักดันการพัฒนาการเลี้ยง โคนมมาอย่างต่อเนื่องดำเนินงานภายใต้ปณิธานในการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเลี้ยงโคนมในประเทศไทย ให้มีความยั่งยืน ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งจุดซึ่งการต่อยอดการพัฒนาสายพันธุ์โคนมในประเทศไทย ซึ่งจะเป็น ประโยชน์อย่างยิ่งกับเกษตรกรไทย และยังสามารถพัฒนาให้มีนวัตกรรมและมีเทคโนโลยี ที่จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพทั้งน้ำนมโค และวิธีการเลี้ยงโคนมให้มีประสิทธิภาพ มากยิ่งขึ้นตามพระราชดำริ ของทั้ง 2 กษัตริย์ คือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 แห่งประเทศไทย และพระเจ้าเฟรดเดอริกที่ 9 แห่งประเทศเดนมาร์ก นอกจากนี ยังแสดงให้เห็นว่าระยะทางระหว่างสองประเทศไม่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ยาวนานมากว่า 400 ปี และจะยังคงพัฒนาด้านโคนมระหว่างกันสืบไป ดังเช่น การพัฒนาพันธุ์โคนม เทคโนโลยีการเลี้ยงโคนม การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการจัดการฟาร์ม และสวัสดิภาพสัตว์ โครงการถ่ายฝากตัวอ่อนสายพันธ์วัวแดง ตั้งแต่ พ.ศ. 2505 เป็นต้นมา“การเลี้ยงโคนมเป็นอีกหนึ่งพระราชดำริที่กลายมาเป็นอาชีพที่ช่วยให้เกษตรกรไทยมีความเป็นอยู่ที่ดีและมั่นคงขึ้น เพราะพระองค์ทรงวางรากฐานการเลี้ยงโคนมไว้อย่างครบวงจร และสนับสนุนให้เกษตรกรไทยได้มีอาชีพการเลี้ยงโคนม จนนับว่าอาชีพการเลี้ยงโคนมเป็นอาชีพพระราชทานที่เปลี่ยนชีวิตของเกษตรกรไทยให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งการที่พระองค์ทรงสนับสนุนการเลี้ยงโคนมในประเทศไทยนั้น ที่สำคัญยังเป็นการช่วยให้ประชาชนมีอาชีพที่มั่นคง และเป็นการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมไทยมาจนถึงปัจจุบันด้วย”
นายสมพร กล่าวผอ. อ.ส.ค. กล่าวอีกว่า อ.ส.ค. พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมืออันยาวนานระหว่าง 2 ประเทศด้วยความมุ่งหวังในการพัฒนาอุตสาหกรรมโคนมไทยให้มีคุณภาพ สร้างความเข้มแข็งในองค์กรโคนมและบูรณาการบริหารจัดการ เน้นการลดต้นทุนการผลิตในอุตสาหกรรมโคนมของประเทศ พร้อมพัฒนาในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของเกษตรกรโดยมุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมนมไทยให้ยั่งยืน เพื่อให้ได้น้ำนมที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค และสามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้
ด้านนายเฮนนิ่ง ฮ้อย นุก่อ (Mr. Henning Hoy Nyaard) อัครราชทูตที่ปรึกษาการเกษตร อาหาร และประมง จากสถานเอกอัครราชทูตเดนมาร์ก ประจำประเทศไทย กล่าวว่า การเยี่ยมชมฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์คในครั้งนี ถือเป็นก้าวสำคัญในการเผยแพร่ และประชาสัมพันธ์ความร่วมมืออันยิ่งใหญ่ระหว่างประเทศไทยและราชอาณาจักรเดนมาร์ก และยังคงเน้นย้ำถึงการพัฒนาทางการเกษตรที่ยั่งยืน ซึ่งจะนำไปสู่ความก้าวหน้าและความเจริญรุ่งเรืองของทั้งสองประเทศในอนาคต
ร.ต.สุประวีณ์ บุญธิคำ บรรณาธิการข่าว รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น