สระบุรี - เตรียมจัดงานประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะมหัศจรรย์ข้าวต้มลูกโยนแห่งจังหวัดสระบุรี 17-19 ตุลาคมนี้
จังหวัดสระบุรีร่วมกับ วัดพระพุทธฉาย องค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรี สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสระบุรี และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เตรียมร่วมกันจัดงานมหัศจรรย์ข้าวต้มลูกโยนแห่งสระบุรี ประจำปี 2567 ณ วัดพระพุทธฉาย ตำบลหนองปลาไหล จังหวัดสระบุรี ในวันที่ 17-19 ตุลาคม 2567 เพื่อเป็นการอนุรักษ์ ฟื้นฟู ส่งเสริม วัฒนธรรม ประเพณีที่ดีงามให้คงอยู่คู่จังหวัดสระบุรี และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เพื่อสืบสานวัฒนธรรมประเพณีซึ่งมีมาแต่โบราณกาล โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนจะได้ปลูกฝัง ความรัก ความกตัญญู ต่อพ่อแม่ซึ่งมีพระพุทธเจ้าเป็นแบบอย่างที่พระองค์เสด็จจำพรรษาในเทวโลกชั้นดาวดึงส์แสดงพระอภิธรรมปิฎก เพื่อตอบแทนคุณของพุทธมารดา
ซึ่งทางจังหวัดสระบุรีได้จัดมีการแถลงข่าวขึ้นโดยมี นายดุรงค์ฤทธิ์ ศิริวัฒนพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี พระมหาสินชัย ธัมมะโชโต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย นางวรรณทิตย์ กิจดี นักวิชาการวัฒนธรรมพิเศษรักษาราชการแทน วัฒนธรรมจังหวัดสระบุรี นายธนกฤต อัตถสัมปุณนะ รองนายกองค์การบริการส่วนจังหวัดสระบุรี และ นายอรรถการณ์ จิตถวิล นายอำเภอเมืองสระบุรี ร่วมแถลงข่าวการจัดงาน
นายดุรงค์ฤทธิ์ ศิริวัฒนพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี กล่าวว่า งานนี้กำหนดจัดในวันที่ 17-19 ตุลาคม 2567 ณ วัดพระพุทธฉาย การจัดงานดังกล่าวเพื่อเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามให้คงอยู่คู่จังหวัดสระบุรี และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เพื่อสืบสานวัฒนธรรมที่มีมาแต่โบราณกาล โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนที่สำคัญเป็นการส่งเสริมการทองเที่ยวของจังหวัดตามนโยบายของนายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ที่ผลักดันให้เกิดการท่องเที่ยวในทุกด้านเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ประชาชนมีอาชีพมีรายได้
พระมหาสินชัย ธัมมะโชโต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย กล่าวว่า งานนี้ต้องการปลูกฝังความรัก ความกตัญญูต่อพ่อแม่ซึ่งมีพระพุทธเจ้าเป็นแบบอย่างที่พระองค์เสด็จจำพรรษาในเทวโลกชั้นดาวดึงส์ แสดงพระอภิธรรมปิฎก เพื่อตอบแทนคุณของพุทธมารดา ตามตำนานกล่าวว่า เมื่อครั้งพระพุทธเจ้าทรงพระชนมายุอยู่นั้น ทรงเสด็จขึ้นไปโปรดพระพุทธมารดาที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และกลับมายังมนุษย์โลกที่เมืองสังกัสคีรี ตรงกับวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ประชาชนต่างมารอเฝ้ารับสด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในวันนั้น ได้กล่าวว่าเป็นวันเปิดโลก ทำให้โลกมนุษย์ สวรรค์และนรกต่างเห็นกันและกันประชาชนที่มาจำนวนมากที่มาเฝ้ารอเสด็จต่าง ปราถนาใส่บาตรพระพุทธองค์ โดยประชาชนที่อยู่ห่างออกไปไม่สามารถจะใส่บาตรได้ถึง จึงใช้วิธีการโยนอาหารของตนลงในบาตรของพระพุทธเจ้า และพระสาวก โดยอาหารเหล่านั้นตกลงในบาตรเป็นที่อัศจรรย์
นางวรรณทิตย์ กิจดี นักวิชาการวัฒนธรรมพิเศษรักษาราชการแทน
วัฒนธรรมจังหวัดสระบุรี กล่าวว่า ไฮไลต์ภายในงาน
ทุกท่านจะได้ชมขบวนแห่ข้าวต้มลูกโยน
และขบวนการแสดงขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมพื้นบ้านที่ยิ่งใหญ่และสวยงาม และชมกรรำวงในบทเพลงรำวงสระบุรีที่ใช้คนมากที่สุด
เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา
การตักบาตรข้ามต้มลูกโยนซึ่งมีการจำลองการเสด็จลงมาจากสวรรค์ขององค์สัมมาสัมมาพุทธเจ้า
เสด็จลงมาจากชั้นดาวดึงส์เพื่อลงมายังโลกมนุษย์ เพื่อโปรดสัตว์
และมนุษย์โลกโดยมีนางฟ้า นางสวรรค์ เทวดาเสด็จร่วมขบวน
โดยในระหว่างขบวนแห่มีชาวบ้านรอใส่บาตรด้วยข้าวต้มลูกโยน ข้าวสาร อาหารแห้ง
ผลไม้แก่พระภิกษุ สามเณร ข้าวต้มลูกโยนนั้น วิธีการทำอาจคล้ายคลึงกัน
แต่การใช้ใบไม้มีหลายชนิดที่นำมาห่อ
ส่วนใหญ่จะใช้ใบเตยซึ่งเมื่อนำไปนึ่งก็จะมีกลิ่นหอม และเมื่อสุกแล้วแกะออกจะมีลักษณะคล้ายหยดน้ำ
ทำให้น่ารับประทาน และสามารถเก็บได้นานกว่า 3 วัน ในอุณหภูมิปกติ อีกทั้งการทำข้าวต้มลูกโยนยังถ่ายทอดความสามัคคี
ความร่วมมือร่วมใจในการรักษาประเพณีของชุมชน การทำข้าวต้มลูกโยนหรือข้าวต้มหาง
จะนิยมทำขึ้นในวันออกพรรษาประเพณีนี้ชาวบ้านปฏิบัติสืบสานมาอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งเป็นประเพณีเก่าแก่ของที่นี่
ซึ่งทุกบ้านจะทำข้าวต้มลูกโยนเพื่อนำไปทำบุญตักบาตรเทโวฯ
สำหรับท่านที่จะมาร่วมงานสามารถหาซื้อข้าวต้มลูกโยนได้ภายในวัดโดยทางกลุ่มแม่บ้านและชาวบ้านในพื้นที่จะนำมาจำหน่าย
ด้านรองนายก อบจ.สระบุรี นายธนกฤต อัตถสัมปุณนะ จังหวัดสระบุรีกล่าวว่า งานนี้ทาง อบจ.สระบุรี ได้สนับสนุนงบประมาณในการจัดงาน ซึ่งถือเป็นนโยบายสำคัญที่จะร่วมกันส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด
นายอรรถการณ์ จิตถวิล นายอำเภอเมืองสระบุรี กล่าวว่า การจัดขบวนแห่ได้เตรียมการแสดงสุดยิ่งใหญ่หลายขบวน ขบวนนางรำกว่าพันชีวิต ขบวนชาติพันธุ์ การแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นของจังหวัดสระบุรี และภายในงานยังมีกลุ่มแม่บ้านสาธิตวิธีการทำข้าวต้มลูกโยนให้แก่นักท่องเที่ยวได้ชม และยังสามารถเดินทางเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณใกล้เคียง ได้แก่ อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น ซึ่งอยู่ห่างจากวัดพระพุทธฉายเพียง 1 กิโลเมตร ช่วงปลายฝนต้นหนาว นักท่องเที่ยวนิยมมากางเต็นท์สูดบรรยากาศบริสุทธิ์ ท่ามกลางบรรยากาศเย็นสบาย แวดล้อมไปด้วยเสียงจากธรรมชาติ
วัดพระพุทธฉายได้ริเริ่มฟื้นฟูประเพณีใส่บาตรข้าวต้มหาง หรือใส่บาตรข้าวต้มลูกโยน กว่า 10 ปีมาแล้ว และปฏิบัติต่อเนื่องมา ทำให้งานประเพณีตักบาตรข้าวต้มลูกโยนของวัดพระพุทธฉาย เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายไปทั่วประเทศ เนื่องจากมีพุทธศาสนิกชนจำนวนมากมาร่วมพิธีนับหมื่นคน สำหรับการทำ"ข้าวต้มลูกโยน" หรือ "ข้าวต้มหาง" ลักษณะคล้ายข้าวต้มมัดแต่มีขนาดเล็กกว่าอีกทั้งในรูปแบบการห่อมีเอกลักษณ์โดดเด่นโดยจะไว้หางยาวเพื่อความสะดวกในการใส่บาตร ซึ่งผู้ที่ทำได้เล่าถ่ายทอด ถึงการทำข้าวต้มลูกโยนว่า ข้าวต้มลูกโยน หรือ ข้าวต้มหาง ทำมาจากข้าวเหนียว ซึ่งจะนำมาผัดกับกะทิคล้ายกับการทำข้าวต้ม มัดแต่จะมีขนาดเล็กกว่า ข้าวต้มลูกโยนที่นี่จะใส่กล้วยถั่วดำและใส่กล้วยสุก แล้วนำมาห่อซึ่งรูปแบบการห่อจะนำใบเตยทำเป็นกรวยม้วนพันไปจนหุ้มข้าวเหนียวโดยทิ้งชายไว้ จากนั้นจะมัดด้วยไม้กลัดก่อนนำไปนึ่งให้สุกอีกประมาณ 7 ถึง 10 นาที อีกครั้ง
จังหวัดสระบุรี
โดยวัดพระพุทธฉาย ขอเชิญ พุทธศาสนิกชนร่วมงานประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะ ประจำปี 2567 “มหัศจรรย์ข้าวต้มลูกโยนจังหวัดสระบุรี”
ระหว่างวันที่ 17-19 ตุลาคม 2567 ณ
วัดพระพุทธฉาย ต.หนองปลาไหล อ.เมือง จ.สระบุรี
โดยมีกิจกรรมดังนี้ วันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม 2567
- 08.00น. ทำบุญตามประเพณี
- 09.40น.-10.00น. พิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์
- 19.00น. ชมการแสดงแสง สี เสียง
การแสดงเหตุการณ์จำลองพระพุทธเจ้า เสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
- 17.00-20.00น.
การแสดงศิลปวัฒนธรรม และตลาดวัฒนธรรม
วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม 2567
- 07.00-09.00น. ชมการแสดง
“รำวงสระบุรี”, ปล่อยขบวนแห่ข้าวต้มลูกโยนและขบวนนางรำ,
พิธีเปิดงานและพิธีตักบาตรข้าวต้มลูกโยน, ชมการแสดงเหตุการณ์จำลองพระพุทธเจ้า
เสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
- 09.30น. ตักบาตรข้าวต้มลูกโยน
- 19.00น. ชมการแสดงแสง สี เสียง
การแสดงเหตุการณ์จำลองพระพุทธเจ้า เสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
- 17.00–20.00น.
การแสดงศิลปวัฒนธรรม และตลาดวัฒนธรรม
วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม 2567
พิธีตักบาตรข้าวต้มลูกโยนและการแสดงศิลปวัฒนธรรม
- 09.30น. ตักบาตรข้าวต้มลูกโยน
- 17.00–20.00น.
การแสดงศิลปวัฒนธรรม และตลาดวัฒนธรรม
ร.ต.สุประวีณ์ บุญธิคำ
/บรรณาธิการข่าว รายงาน 0944311315
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น