วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

บีทีเคนิวส์ ออนไลน์: แนวหลังไม่ทิ้งกัน! เครือข่ายทหารผ่าศึกเมืองสระบุรี...

บีทีเคนิวส์ ออนไลน์: แนวหลังไม่ทิ้งกัน! เครือข่ายทหารผ่าศึกเมืองสระบุรี...: แนวหลังไม่ทิ้งกัน! เครือข่ายทหารผ่าศึกเมืองสระบุรี ชมรมรวมพลังคนรักสถาบันจังหวัดสระบุรี  ระดมกำลังบำรุงหนุนทัพ ม.4 พัน 11 รอ. สู้ศึกชายแดนตะ...

แนวหลังไม่ทิ้งกัน! เครือข่ายทหารผ่าศึกเมืองสระบุรี ชมรมรวมพลังคนรักสถาบันจังหวัดสระบุรี  ระดมกำลังบำรุงหนุนทัพ ม.4 พัน 11 รอ. สู้ศึกชายแดนกัมพูชา









            เมื่อ 29 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00 น. ณ.ที่ตั้ง บก.ม.4 พัน 11 รอ. พันโทถวิล ภู่พงษาหั  วหน้า.เครือข่ายทหารผ่านศึกอำเภอเมืองสระบุรีและหัวหน้าเครือข่ายตำบล พร้อมสมาชิกเครือข่ายทหารผ่านศึกสระบุรี พร้อมกับชมรมรวมพลังคนรักสถาบันจังหวัดสระบุรี นำโดย ร.ต.สุประวีณ์  บุญธิคำ ประธานชมรมพร้อมคณะที่ปรึกษาฯ และคณะกรรมการชมรมรวมพลังคนรักสถาบันจังหวัดสระบุรี  ร้านแป้ง 2003 โดย ร้อยโทโสภณ นิลเพ็ชร 












ซึ่งได้ร่วมสมทบทุนและสิ่งของเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลเหล่าทหารหาญ แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วน เดินทางเข้าไปมอบ อาหารแห้ง สิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น และเครื่องอำนวยความสะดวก ให้ กับเหล่าพี่น้อง ทหารหาญ กองพันทหารม้าที่ 11 รักษาพระองค์ กรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ (ม.4 พัน 11 รอ.) ที่เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนด้านทิศตะวันออกของประเทศ เพื่อสร้างขวัญ และกำลังใจ จากความห่วงใยจากแนวหลัง  ให้ทุกนาย ปฏิบัติหน้าที่ให้เต็มกำลัง และกลับมาอย่างปลอดภัย




















 ร.ต.สุประวีณ์  บุญธิคำ  บรรณาธิการข่าว  รายงาน

 




 

วันเสาร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

บีทีเคนิวส์ ออนไลน์: ศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อภูมิภาค จุฬาลงกรณ์มห...

บีทีเคนิวส์ ออนไลน์: ศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อภูมิภาค จุฬาลงกรณ์มห...

ศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อภูมิภาค จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัด โครงการป...

บีทีเคนิวส์ ออนไลน์: เติมพลังชีวิตสระบุรี! ตำรวจสระบุรีจับมือนักเรียน ป...

บีทีเคนิวส์ ออนไลน์: เติมพลังชีวิตสระบุรี! ตำรวจสระบุรีจับมือนักเรียน ป...

เติมพลังชีวิตสระบุรี! ตำรวจสระบุรีจับมือนักเรียน ประชาชน ฝึกเข้มช่วยชีวิ...

บีทีเคนิวส์ ออนไลน์: ชาวสระบุรีใจเกินร้อย จากใจถึงกายสู่ชายแดน แห่ร่วมบ...

บีทีเคนิวส์ ออนไลน์: ชาวสระบุรีใจเกินร้อย จากใจถึงกายสู่ชายแดน แห่ร่วมบ...

ชาวสระบุรีใจเกินร้อย จากใจถึงกายสู่ชายแดน แห่ร่วมบริจาคโลหิต ช่วยชีวิตทห...

บีทีเคนิวส์ ออนไลน์: ชาวสระบุรีใจเกินร้อย จากใจถึงกายสู่ชายแดน แห่ร่วมบ...

บีทีเคนิวส์ ออนไลน์: ชาวสระบุรีใจเกินร้อย จากใจถึงกายสู่ชายแดน แห่ร่วมบ...: ชาวสระบุรีใจเกินร้อย จากใจถึงกายสู่ชายแดน แห่ร่วมบริจาคโลหิต ช่วยชีวิตทหาร-พลเรือน แน่นโรงพยาบล             วันนี้ ( 26 กรกฎาคม 2568) ที่...

  

ชาวสระบุรีใจเกินร้อย จากใจถึงกายสู่ชายแดน แห่ร่วมบริจาคโลหิต ช่วยชีวิตทหาร-พลเรือน แน่นโรงพยาบาล


            วันนี้ (26 กรกฎาคม 2568) ที่โรงพยาบาลสระบุรี ชาวจังหวัดสระบุรี เข้าร่วมกิจกรรมกับเหล่ากาชาดจังหวัดสระบุรี มีการรับบริจาคโลหิตครั้งใหญ่ มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือทหารหาญและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งเติมปริมาณโลหิตสำรองสำหรับความต้องการภายในจังหวัดเอง ซึ่งได้รับความร่วมมือจากประชาชนอย่างล้นหลามโดยมีนายบัญชาเชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีและรองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี และคณะนายอำเภอ ฝ่ายปกครอง เข้าร่วมกิจกรรมการบริจาคโลหิต กับประชาชนชาวสระบุรีในครั้งนี้กันอย่างพร้อมเพียง



























            นางจิตตินันท์ เชาวรินทร์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสระบุรี ได้กล่าวขอรับบริจาคโลหิตพร้อมเผยความตั้งใจว่า "กิจกรรมที่เราทำในวันนี้ก็เพื่อเป็นการรับบริจาคโลหิต สำหรับสำรองไว้ใช้คงคลังทั้งที่ของจังหวัดสระบุรีเองซึ่งเรามีความขาดแคลน และอีกส่วนหนึ่งเราทุกคนเป็นคนไทย เราก็จะช่วยเหลือประเทศชาติของเรา ดังนั้น ถ้ามีส่วนหนึ่งเราก็จะไปช่วยสนับสนุนเพื่อช่วยเหลือปัญหาของทางด้านชายแดนไทย-เขมรของเรา ทั้งทหารหรือผู้ประสบภัย ผู้ประสบเหตุที่จังหวัดตรงนั้น รวมถึงใช้เอาไว้ใช้ในกิจการของโรงพยาบาลของเรา ก็ต้องขอขอบคุณทุกคน ทุกกำลังใจที่มาให้ความช่วยเหลือเราในวันนี้ มาแบบล้นหลามมาก บางคนมาแล้วสามวันเพื่อจะรอบริจาค ต้องขอขอบคุณประชาชนชาวสระบุรีทุกคนที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ขอบคุณมาก"











            ด้านนางภาวิณี เอี่ยมจันทน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสระบุรี เปิดเผยว่า ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (25 กรกฎาคม 2568) มีผู้มาบริจาคโลหิตกว่า 300 คน และได้รับโลหิตไปประมาณ 200 ถุง ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีของการรวมพลังน้ำใจ สำหรับวันนี้ ทางโรงพยาบาลสระบุรี ยังคงเปิดรับบริจาคต่อเนื่อง ตั้งแต่เช้าจนถึงเวลา 20.00 น. และคาดว่าจะมีประชาชนทยอยมาบริจาคตลอดทั้งวัน นางภาวิณีกล่าวว่า "วันนี้ทางโรงพยาบาลจัดกิจกรรมรับบริจาคโลหิต เพื่อทหารหาญและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากระเบิดที่เขตชายแดน เมื่อวานนี้มีผู้ประสงค์มาบริจาคประมาณสามร้อยกว่าท่าน ได้เลือดประมาณสองร้อยถุง และวันนี้เราเริ่มให้บริการตั้งแต่เช้าจนถึงสองทุ่ม ก็คาดว่าจะมีประชาชนทยอยมาบริจาคเรื่อย ๆ วันนี้ก็อย่างที่เห็น"








            ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสระบุรี ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการบริจาคโลหิตและเชิญชวนประชาชนว่า "ก็จะเปิดรับบริจาคไปจนถึงวันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม ก็อยากเชิญชวนประชาชนชาวสระบุรีและชาวจังหวัดใกล้เคียง ได้เข้ามาร่วมบริจาคเลือด ซึ่งนอกจากการบริจาคเพื่อทหารหาญและประชาชนที่ได้รับผลกระทบแล้ว ชาวสระบุรีเองก็ยังมีความต้องการใช้เลือดสำหรับการผ่าตัด ซึ่งทุกวันนี้เลือดที่เราได้จะตกประมาณเดือนละประมาณ 1,200 ถุง แต่ว่าจริง ๆ ความต้องการเราอยู่ที่ประมาณ 1,500 ถุง" พร้อมอธิบายถึงการบริหารจัดการหากได้รับบริจาคเกินความต้องการในระยะสั้นว่า "แต่ว่ายังไงก็ตาม ช่วงนี้เนื่องจากมีผู้มาบริจาคเลือดเป็นจำนวนมาก แต่ว่าอย่างที่ทราบว่าเลือดจะมีอายุประมาณ 30 ถึง 45 วัน ดังนั้นในช่วงหลังจากนี้ ถ้าเรามีความต้องการที่ส่งไปแล้วเพียงพอแล้ว เราอาจจะขออนุญาตให้คิวไว้ ให้ท่านมาลงคิวไว้ แล้วก็พอความต้องการเริ่มลดลง เราก็จะแจ้งข่าวท่านว่าให้ท่านทยอยมาบริจาค"




            ในทำนองเดียวกัน นางวนิดา ศรีเม่น กำนันตำบลม่วงงาม อำเภอเสาไห้ ก็ได้มาร่วมบริจาคโลหิตในวันนี้ด้วยความตั้งใจอันแรงกล้า โดยกล่าวว่า "วันนี้ เรามาบริจาคเลือด เรามีความตั้งใจมาก ตอนนี้ทางเหตุการณ์บ้านเมืองของเรา ถือว่าไม่ปกติ มีเกิดภัยสงครามเกิดขึ้น สิ่งหนึ่งในการทำสงครามครั้งนี้ก็คือการ อาจจะมีการเสียเลือดเสียเนื้อ  เราเป็นประชาชนคนไทยคนหนึ่งที่เราพอจะช่วยได้ เราได้ทราบข่าวจากจังหวัดสระบุรีแล้วก็จากอำเภอเสาไห้ ว่าต้องการสต็อกเลือด ช่วยให้กับทหารก็ดี หรือประชาชนที่ได้รับภัยในครั้งนี้ก็ดี เราก็เลยมีความรู้สึกว่าเราตั้งใจมาก ในสิ่งที่เราพอที่จะช่วยได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่เรื่องนี้เราถือว่ามันเป็นการช่วยชีวิตของคนไทยคนหนึ่ง ก็ตั้งใจมากมาก เลยมาวันนี้"


            กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่เติมเต็มคลังโลหิตที่จำเป็น แต่ยังเป็นการแสดงพลังแห่งความสามัคคีและน้ำใจของชาวสระบุรี ที่พร้อมยืนเคียงข้างเพื่อนร่วมชาติในยามวิกฤต และเป็นแบบอย่างที่ดีของการช่วยเหลือสังคมอย่างแท้จริง

ร.ต.สุประวีณ์  บุญธิคำ บรรณาธิการข่าว รายงาน