กำลังใจดีไทด์ควงหวานวิ่งเพื่อบ้านสุขสุดท้ายวันที่ 3 ขณะที่บิณฑ์ก็สู้ไม่ถอยขอเคียงข้างทุกก้าววิ่ง แฝด63ปี ล่าสุด เข้าเขตจังหวัดสระบุรี ยังไหว
เข้าสู่วันที่ 3 ของโครงการ สัญญาไม่ทิ้ง ขอวิ่งเพื่อบ้านสุขสุดท้าย ที่ทางด้าน คุณเอกพัน หรือคุณไทด์ ได้เริ่มโครงการออกวิ่งจากกรุงเทพสู่จังหวัดอุบลด้วยระยะทาง 600 กิโลเมตร เพื่อรับบริจาคเงินนำไปสร้างบ้านสุขสุดท้ายหลังที่ 2
โดยวันนี้ตั้งแต่ช่วงสายที่ผ่านมา คุณไทด์ พร้อมด้วย คุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ คุณแอม หทัยราษฎร์ คุณ สตาร์ วิรสุดา จงจอหอ และนักวิ่งกว่า 10 ชีวิต ออกจากจุดสตาร์ทช่วงต่างระดับวังน้อยบนถนนพหลโยธิน มุ่งหน้าสู่จังหวัดสระบุรี ซึ่งล่าสุด ชาวบ้าน ริมถนน แถวอำเภอหนองแค ให้การต้อนรับ ขบวน วิ่ง ฝาแฝด ในวันที่ 3 เซ็ตแรก หลัง เริ่มออกวิ่ง เมื่อวันที่17 พฤษภาคม บริเวณอนุสรณ์สถานแห่งชาติ (ดอนเมือง ) จนล่าสุด เข้าเขตจังหวัดสระบุรี ซึ่งบรรยากาศก่อนออกตัววิ่ง ใน ช่วงเบ่าย วันนี้ ทางด้านคุณทับทิม อัญริทนร์ แฟนสาวของ คุณไทด์ เอกพัน ได้เข้ามาให้กำลังใจซึ่งกันและกันอย่างหวานฉ่ำท่ามกลางแสงแดดและอากาศที่ร้อนอบอ้าว โดยตลอดเส้นทางซึ่งพบว่าอากาศร้อนอบอ้าวจนทำให้พี่เลี้ยงต้องคอยส่งน้ำและผ้าเย็นให้กับนักวิ่งเพื่อปรับสภาพร่างกาย พร้อมทั้งประเมินสภาพร่างกายตลอดเส้นทาง โดยมีทีมแพทย์ด้านกายภาพบำบัดคอยดูแลอย่างใกล้ชิด
ขณะที่ตลอดเส้นทางรวมถึงในศูนย์อาหารเค้กบ้านสวนพบว่ามีประชาชนจำนวนมากรวมถึงพ่อค้าแม่ขายต่างพากันมารอถ่ายรูป
ให้กำลังใจ และร่วมกันบริจาคเงินให้กับโครงการดังกล่าวอย่างคึกคัก
คุณ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ บอกว่า ผ่านมาถึงวันที่ 3 ของการวิ่ง โดยสภาพร่างกายนั้น ยอมรับว่าเริ่มเหนื่อยล้าและปวดตามขาบ้าง ถึงแม้ว่าตนเองจะเป็นนักกีฬาฟุตบอลก็ตาม แต่การออกกำลังกายในสนามฟุตบอลต่างกันกับการออกมาวิ่งในลักษณะเช่นนี้ ซึ่งมีทั้งการที่ต้องคุมความเร็วและเวลาในการวิ่ง ยอมรับว่าตนเองในแต่ละเซ็ตที่ตั้งไว้วิ่งได้ไม่เกิน 5 กิโลเมตร ส่วนคุณเอกพันเขาร่างกายก็เริ่มอ่อนล้าแต่ใจเขาสู้และทำเพื่อตนเองที่จะร่วมกันสร้างบ้านสุขสุดท้ายหลังที่สองขึ้นมา ถึงยังไงก็ต้องเคียงข้างและกอดคอกันเข้าเส้นชัยตามความตั้งใจของคุณเอกพัน โดยได้วางแผนการวิ่งไว้แล้ว คาดว่า วันละไม่ต่ำกว่า 20กิโลเมตร และวันนี้จะพักค้างคืนที่ อำเภอหนองแค ก่อนพรุ่งนี้เช้าจะเดินทาง ต่อไป ตามเส้นทาง ถนนพหลโยธินเพื่อเข้าเมืองสระบุรี ต่อเนื่อง ไปยังอำเภอมวกเหล็กซึ่งระยะนี้(ผ่านจังหวัดสระบุรี เหลืออีก 50-60กิโลเมตร จะพ้นเขตจังหวัดสระบุรี มุ่งหน้าเข้าอำเภอปากช่อง แต่ ต้องขอดูสถานการณ์ ซึ่งพรุ่งนี้ อาจจะต้องค้างคืนที่ อำเภอมวกเหล็กหรือรอยต่ออำเภอปากช่อง อีก1คืน ส่วนสภาพร่างกายโดยรวมฝาแฝด วัย63ปีวิ่งผ่านมา3วัน ยังไหวส่วนพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร ข่อยมาดูสถานการณ์กันอีกครั้ง ซึ่ง ทางทีมงานวางแผนไว้ว่าจะใช้เวลาวิ่งจากกรุงเทพไปถึง อุบลราชธานี ประมาณ 45วันหากไม่บาดเจ็บเสียก่อน
ขณะที่ คุณเอกพัน ออกมายอมรับว่า สภาพร่างกายวันนี้แย่กว่าทุกวันที่วิ่งมา เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนมาประกอบกับตนเองนอนไม่หลับในค่ำคืนที่ผ่านมาทำให้สภาพร่างกายปรับสภาพไม่ทัน แต่ยืนยันว่าจะสู้และทำภารกิจนี้ให้ถึงเส้นชัย หลังจากนี้ต้องหันมาปรับเรื่องการพักผ่อนให้มาขึ้นเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายและในวันพรุ่งนี้จะต้องวิ่งให้ถึงสระบุรีให้ได้ตามเซ็ตที่วางไว้
ทั้งนี้ขอเชิญร่วมกันทำบุญผ่านทางบัญชี
ธนาคารกสิกรไทย เลขบัญชี 208-1-88023-1 ชื่อบัญชี สัญญาไม่ทอดทิ้ง ขอวิ่งเพื่อบ้านสุขสุดท้าย
โดย นายไทด์ บันลือฤทธิ์
หรือจะร่วมกันทำบุญตลอดเส้นทางที่ขบวนผ่าน
โดยจะใช้เส้นทางพหลโยธินเข้าเมืองสระบุรีแล้วขวาเข้าถนนมิตรภาพต่อเนื่องเข้านครราชสีมาแล้วใช้ถนนหลวงสาย
226 มุ่งหน้าสู่จังหวัดอุบลราชธานี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น