สระบุรี. นายก”เชน”นายธีรรัตน์
จึงยิ่งเรืองรุ่ง นายกเทศมนตรีเมืองสระบุรี ร่วมพิธีมอบ บัตรประจำตัวประชาชน
ให้แก่ นางสาวสุภาพร วรจักร ผู้ได้รับสัญชาติไทย.
วันที่ 8 มิถุนายน 2564 ที่ว่าการ อำเภอเมืองจังหวัดสระบุรี นายธีรรัตน์ จึงยิ่งเรืองรุ่ง นายกเทศมนตรีเมืองสระบุรี พร้อมด้วยสมาชิกสภาเทศบาล เข้าร่วมพิธีมอบบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่ น.ส.สุภาพร วรจัก ผู้ได้รับสัญชาติไทย โดยมี นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธานมอบบัตรประชาชนให้ผู้ได้รับสัญชาติไทยตามมาตรา 7 ทวิวรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2508 แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 (และฉบับที่ 4 ) พ.ศ.2551 โดยมี ว่าที่เรือตรี ศรัณยวัชร พูลสวัสดิ์ นายอำเภอเมืองสระบุรี กล่าวรายงานผลการปฏิบัติงานตามคำกราบบังคมทูลขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับการขอสัญชาติไทยของ นางสาวสุภาพร วรจัก ผู้ได้รับสัญชาติไทยตามมาตรา 7 ทวิวรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2508 แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 (และฉบับที่ 4 ) พ.ศ.2551 เพื่อรับมอบบัตรประจำตัวประชาชนบุคคลสัญชาติไทย พร้อมด้วย นายกเหล่ากาชาดสระบุรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี หัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมในพิธี
ตามที่สำนักพระราชวัง
ได้มีหนังสือที่ รล 0010/445 ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564
แจ้งให้จังหวัดสระบุรี ดำเนินการตรวจสอบเอกสาร หลักฐานและข้อเท็จจริง ของ น.ส.
สุภาพร วรจัก กรณีได้ทำหนังสือกราบบังคมทูล
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชการเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ความว่า
ตนเองและมารดาไม่มีสัญชาติไทย ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน
อีกทั้งที่อยู่อาศัยประสบอัคคีภัย เป็นเหตุให้เอกสารหลักฐาน การยืนยันตัวตนสูญหาย
นั้น จังหวัดสระบุรี โดยนายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี
มอบหมายให้ที่ทำการปกครองอำเภอเมืองสระบุรี ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง
จากภูมิลำเนาเดิม พบว่า น.ส. สุภาพร วรจัก และนางกลอง วรจัก (มารดา)
ได้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน กลุ่มชาติพันธุ์ผู้ผลัดถิ่น
สัญชาติพม่า เชื้อสายไทย ณ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2550
และได้ถูกจำหน่าย รายการไปแล้ว เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2554 เนื่องจากไม่ได้ยืนยันตัวตน ตามระยะเวลา
ที่กำหนดไว้จังหวัดสระบุรีได้ประสานกับกรมการปกครอง
กระทรวงมหาดไทย เพื่อขอคืนรายการที่ถูกจำหน่าย ดังนี้ 1.น.ส.สุภาพร วรจัก ได้รับบัตรประจำตัวประชาชน และสัญชาติไทย
เนื่องจากเป็นบุคคลที่เกิดในราชอาณาจักรไทยสามารถขอสัญชาติไทยได้ตามมาตรา 7 ทวิวรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2508 แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2) พ.ศ 2535และ(ฉบับที่ 4) พ.ศ.2551 2. นางกลอง วรจัก (มารดา)
ได้รับบัตรประจำตัวผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียนแต่ยังไม่ได้รับสัญชาติไทย
เนื่องจากไม่มีคุณสมบัติตามกฎกระทรวง
จากนั้น นางสาวสุภาพร วรจัก
กล่าวคำปฏิญาณตนขอเป็นพลเมืองดีต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี โดยจะจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา
และพระมหากษัตริย์จะอุทิศตนและเสียสละชีวิตเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติไทย จะเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายและนโยบายรัฐบาล
จะประกอบอาชีพโดยสุจริต ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ยึดหลักการดำเนินชีวิตแบบพอเพียง
จะช่วยเหลืองานราชการ ช่วยเหลือสังคม
จะประพฤติตนเป็นคนดีตามหลักคำสอนของศาสนาและตามแนวทางพระบรมราโชวาท ตลอดไป
จ.ส.อ.สุประวีณ์ บุญธิคำ /บรรณาธิการข่าว /รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น