สระบุรี. ทีมงานพรรคศรีวิไลย์ ลงพื้นที่ตรวจบ่อกำจัดขยะสระบุรี ถูกท้าทายเจอสิบล้อจอดขวางถนน
สระบุรี. ทีมงานพรรคศรีวิไลย์ ลงพื้นที่ตรวจบ่อกำจัดขยะสระบุรี ถูกท้าทายเจอสิบล้อจอดขวางถนน
วันนี้(14 มิ.ย.62) เวลา 10.30 น. กรณี
โรงงานกำจัดขยะส่งกลิ่นเหม็นมากส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่กับประชาชนจำนวนกว่า
4 ตำบล อีกทั้งมี ประชาชนกว่า 300 คนส่งชื่อร้องเรียน พรรคไทยศรีวิไลย์ จึงลงพื้นที่ตามเรื่องร้องเรียนกับ
ผู้ว่าฯ จ.สระบุรี นำโดยนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรค และนายณัชพล
สุพัฒนะ หรือ มาร์ค พิตบูล นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
หัวหน้าพรรคศรีวิไลย์ พลโท อัศวิน รัชฏานนท์ รองหัวหน้าพรรค เลขาพรรคฯ น.ส.ภคอร
จันทรคณา โฆษกพรรคฯ และคณะ พร้อมด้วยชาวบ้านพื้นที่ ต.หนองปลาไหล อ.เมือง
จ.สระบุรี และใกล้เคียง นำโดย น.ส.ศรีวรินทร์ บุญทับ แกนนำ รวมประมาณ 50 คน
ได้รวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัดสระบุรี เพื่อทวงถามความคืบหน้าตามที่พรรคและชาวบ้านได้เดินทางมาเรียกร้องขอให้แก้ไขปัญหาผลกระทบจากกิจการกำจัดขยะของ
บริษัทเเบตเตอร์ เวิลด์ กรีน เมื่อ 4
ม.ค.62ที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ โดยได้มีการประชุมร่วมกัน ณ
ห้องประชุมศาลากลางจังหวัด มี นายสมภพ
สมิตะสิริ รอง ผวจ.สระบุรี เป็นประธานการประชุม

โดยมี พ.อ.เพิ่มศักดิ์ รอง
ผอ.กอ.รมน.ฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคอยตอบคำถาม ใช้เวลากว่า 1 ช.ม.จึงเสร็จ ซึ่งที่ประชุมมีมตินำคณะ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
รวมถึงคณะของนายมงคลกิตติ์ ลงพื้นที่เพื่อเก็บตัวอย่างน้ำ
และดินไปตรวจสอบว่ามีสารพิษอันเป็นอันตรายต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนมากน้อยแค่ไหน
ส่วนเรื่องของกลิ่นนั้นยังไม่สามารถตรวจสอบได้
เพราะขาดเครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้ตรวจสอบโดยมี ผู้ใหญ่บ้าน
และแกนนำชาวบ้านเป็นผู้นำชี้จุดที่ทางโรงงานกำจัดขยะปล่อยน้ำเสียลงแหล่งน้ำ”คลองหนองน้ำเขียว
นายมงคลกิตติ์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน
ก่อนเดินทางลงพื้นที่เพื่อเก็บตัวอย่าง น้ำ และดิน ใกล้โรงงานกำจัดขยะ
ว่าความเดือดร้อนของชาวบ้านดังกล่าวนี้ ตนได้รับการร้องเรียนตั้งแต่ยังไม่ได้เป็น
ส.ส. และได้ มาตรวจสอบข้อเท็จจริงครั้งหนึ่งแล้วเมื่อ 4 ม.ค.62 ผ่านมากว่า 5 เดือน
และตนได้รับเลือกเป็น ส.ส.แล้วตนคงได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า ความเดือดร้อนที่ได้รับผลกระทบจากโรงงานกำจัดขยะยังคงไม่ได้รับการแก้ไข
ตนพร้อมคณะ และคุณ มาร์ค
จึงได้เดินทางมาเพื่อติดตามความคืบหน้าในเรื่องนี้จึงพบว่าการดำเนินการของที่นี่ (
สระบุรี) ล่าช้า ไม่เหมือนที่ จ.ราชบุรี เมื่อลงไปตรวจสอบพบมีความเดือดร้อนจริง
ทางจังหวัดได้สั่งปิดโรงงานก่อนทันที 30
วันก่อนที่จะให้หน่วยงานต่างๆ เข้าไปตรวจสอบ
เจาะเก็บน้ำใต้ผิวดินมาหาค่าความผิดปกติ ส่วนที่สระบุรีตนไม่อยากตำหนิว่า ล่าช้า
ซึ่งหลังจากนี้ ตนได้ให้ แกนนำ
และชาวบ้านที่เดือดร้อนเดินทางไปยื่นเอกสารความเดือดร้อนให้กับตน เพื่อจะเสนอนายสมติด จาตุศรีพิทักษ์ รอง นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ กระทรวงอุตสาหกรรม.
สั่งปิดกิจการไว้ก่อนในวันเปิดประชุมนัดแรก คาดว่าจะเป็น 19 มิ.ย.62
ที่จะมีการเปิดประชุมสภาจะ เสนอให้พรรคไทยศรีวิไลย์ นำเรื่องเข้าสู่สภา
ยื่นกระทู้ถามสด ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี . ใช้อำนาจตาม ม.44
ปิดกิจการ ดังกล่าวทันที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น