วันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2562



จังหวัดสระบุรีจัดพิธีเนื่องวันที่ระลึกคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระปรมเมนทร
มหาอานันทมหิดล พระอัญฐมรามาธิบดินทร” ประจำปี 2562














เมื่อ 9 มิ.ย. 62 นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี  นำหัวหน้า ส่วนราชการ คณะข้าราชการฝ่ายพลเรือน ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ  ฝ่ายปกครอง  สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น  ร่วมพิธีกล่าวพระราชสดุดี วางพวงมาลาเพื่อถวายราชสักการะ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร เนื่องใน  “วันที่ระลึกคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระปรมเมนทรมหามหาอานันทมหิดล พระอัญฐมรามาธิบดินทร” ประจำปี 2562  ณ หอประชุมศูนย์ราชการจังหวัดสระบุรี ต.ตะกุด อ.เมือง จ.สระบุรี

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร เป็นพระโอรสในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พระราชสมภพ เมื่อวันอาทิตย์ ขึ้น 3 ค่ำ เดือน 11 ปีฉลู หรือตรงกับวันที่ 20 กันยายน พ.ศ.2468 ที่เมืองไฮเดลเบิร์ก ประเทศเยอรมนี  มี สมเด็จพระเชษฐภคินีและสมเด็จพระอนุชา 2 พระองค์ ได้แก่ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
พระองค์เสด็จขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 8 แห่งราชวงศ์จักรี เมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2478 สระบุรีและสวรรคตใน วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 ขณะพระองค์มีพระชนมพรรษาได้ 19 พรรษา สิริครองราชย์ได้ 12 ปีเศษ ดังนั้นในวันที่ 9 มิถุนายนของทุกปีจึงถือเป็นวันที่สำคัญยิ่งที่จะได้ร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์
พระราชกรณียกิจการปกครอง พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินไปในพระราชพิธีพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2489 และเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2489 นอกจากนี้ ยังเสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎรในจังหวัดต่าง ๆ และทรงเยี่ยมชาวไทยเชื้อสายจีนเป็นครั้งแรก ณ สำเพ็ง พระนคร พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2489 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดความขัดแย้งกันระหว่างชาวไทยและชาวไทยเชื้อสายจีนจนเกือบเกิดสงครามกลางเมือง เมื่อพระองค์ทรงทราบเรื่อง มีพระราชดำริว่า หากปล่อยความขุ่นข้องบาดหมางไว้เช่นนี้ จะเป็นผลร้ายตลอดไป จึงทรงตัดสินพระทัยเสด็จพระราชดำเนินสำเพ็ง ซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง และพระองค์ทรงพระราชดำเนินด้วยพระบาทเป็นระยะประมาณ 3 กิโลเมตร การเสด็จพระราชดำเนินสำเพ็งในครั้งนี้จึงเป็นการประสานรอยร้าวที่เกิดขึ้นให้หมดไป
 เนื่องด้วยได้เสด็จพระราชดำเนินพระราชทานปริญญาบัตรเป็นครั้งแรกของพระองค์ ณ หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2489 และอีกครั้งที่ หอประชุมราชแพทยาลัย ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ เมื่อวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2489 โดยในการพระราชทานปริญญาบัตรครั้งนี้ มีพระราชปรารภให้มีการผลิตแพทย์เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้เพียงพอที่จะช่วยเหลือประชาชน โรงเรียนแพทย์แห่งที่ 2 จึงได้ถือกำเนิดขึ้นที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ซึ่งในปัจจุบัน คือ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย















หลังจากนั้น ในวันที่ 5 มิถุนายนพ.ศ. 2489 พระองค์ทรงหว่านข้าว ณ แปลงสาธิต ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งถือเป็นพระราชกรณียกิจสุดท้าย ก่อนเสด็จสวรรคต  มีวัดสุทัศนเทพวรารามถือเป็นวัดประจำรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร เนื่องจากเป็นสถานที่ที่ประดิษฐานพระบรมราชสรีรางคารของพระองค์

จ.ส.อ.สุประวีณ์ บุญธิคำ บรรณาธิการข่าว/รายงาน  094-4311315


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น