อำเภอเสาไห้จังหวัดสระบุรีจัดงานอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่น ประเพณีสงกรานต์สรงน้ำเสานาง ตะเคียนวัดสูง และ สักการะศาลเจ้าปู่ทองคำ ประจำปี 2568
งานประเพณีสรงน้ำพระและอาบน้ำแม่ย่าตะเคียนหรือเสาร้องไห้ ในงานสงกรานต์ประจำปีของวัดสูง อำเภอเสาไห้ ตรงกับวันที่ 23 เมษายน ของทุกปี ปีนี้ก็มีนักท่องเที่ยวและพี่น้องประชาชนเดินทางไปร่วมงานหลายพันคน โดยพิธีกรรมสำคัญคือการได้อาบน้ำและรดน้ำรูปปั้นแม่นางตะเคียน และรดน้ำที่เสาตะเคียน อันเป็นตำนานของอำเภอเสาไห้
เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2568 เวลา 15:30 น ณ.วัดสูง ต.เสาไห้ อ.เสาไห้ จ.สระบุรี นายเลิศชัย สกลเสาวภาคย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธานในพิธีงานประเพณี อนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่น (อาบน้ำแม่นางตะเคียน สักการะ ศาลเจ้าปู่ทองคำประจำปี 2568 โดยมีนางสาวเกศรินทร์ สรรพโกศลกุล ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานปกครอง (ปลัดอาวุโส) อำเภอเสาไห้จังหวัดสระบุรี กล่าวรายงาน ในนามคณะกรรมการจัดงาน ประเพณีอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นในครั้งนี้ มี คณะข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พลเรืองฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และพ่อค้าประชาชน เข้าร่วมงานจำนวนมาก
บรรยากาศภายในงาน ได้มีพิธีบวงสรวงแม่นางตะเคียน ขบวนแห่พระพุทธสิหิงค์ จากวัดสูงถึงตลาดอำเภอเสาไห้ โดยขบวนนางรำ ชมรมวัฒนธรรมต่างๆ แต่ละของอำเภอเสาไห้ เข้าร่วมกิจกรรมกันอย่างพร้อมเพียง จากนั้นนาย เลิศชัย สกลเสาวภาคย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ได้กระทำพิธี สักการะพระพุทธรูป และ สรงน้ำหลวงพ่อองค์ดำ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ประจำวัดสูง พร้อม อาบน้ำ แม่นางตะเคียนต้นตะเคียนที่มีประวัติอันยาวนานของอำเภอเสาไห้ซึ่งมีเรื่องเล่ากันมาอย่างยาวนานถึงเรื่องเล่า ประวัติ อิทธิฤทธิ์ ของเสาร้องไห้
ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี
ได้นำคณะข้าราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชน ร่วม ส่งน้ำพระพุทธสิหิงค์ สรงน้ำพระครูอุดมธรรมพิสุทธิ์ เจ้าอาวาสวัดสูง และ คณะสงฆ์ พร้อมพิธีรดน้ำขอพรผู้สูงอายุทั้งนี้ มีการแสดงมหรสพ ต่างๆภายในบริเวณงานอีกมากมาย
ซึ่งถือว่าเป็นวัดสุดท้ายในประเพณีสรงน้ำพระและพิธีรดน้ำขอพรผู้สูงอายุในห้วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2568 ของอำเภอเสาไห้จังหวัดสระบุรีอีกด้วย
ตำนานเสาร้องไห้ เป็นตำนานของเจ้าแม่ตะเคียนทองที่ตั้งอยู่ในศาลนางตะเคียนทอง ณ วัดสูง ตำบลเสาไห้ ห่างจากที่ว่าการอำเภอเสาไห้ประมาณ 500 เมตร เป็นเสาไม้ตะเคียนขนาดใหญ่ ตำนานเล่ากันว่า เมื่อครั้งสร้างกรุงเทพฯ เป็นราชธานี ได้มีการประกาศเกณฑ์เสาไม้จากหัวเมืองต่างๆ เพื่อที่จะคัดเลือกเสาที่มีลักษณะงดงามนำมาเป็นเสาเอก ซึ่งทางเมืองสระบุรีได้จัดส่งเสาตะเคียนที่มีลักษณะงดงาม ล่องลงมาตามลำน้ำป่าสักและเมื่อเสาตะเคียนดังกล่าวล่องมาถึงกรุงเทพฯ แต่ก็ช้าไปได้มีการคัดเลือกเสาเอกไปก่อนแล้ว เสาต้นนี้จึงเกิดความเสียใจลอยทวนน้ำกลับขึ้นมาจมลง ณ ตำบลแห่งนี้อยู่ประมาณ 100 กว่าปี
วันที่ 23 เมษายน 2501 เป็นวันที่ได้ประกอบพิธีเชิญเสาตะเคียนขึ้นจากแม่น้ำป่าสักหลังมีชาวบ้านฝันเห็นหญิงสาวร้องไห้ในแม่น้ำ จึงได้มีการใช้เชือกดึงแต่ไม่ประสบความสำเร็จแม้จะใช้กำลังคนจำนวนมาก จากนั้นได้มีประกอบพิธีตั้งศาลสูงเพียงตา มีหัวหมูซ้ายขวา บายศรี 3 ชั้น ใช้ด้ายสายสิญจน์ผูกที่เสาแล้วให้ผู้มาร่วมพิธีได้ดึงสายสิญจน์ที่ผูกโยง จากนั้นพระสงค์ 9 รูปเจริญชัยมงคลคาถา และประสบความสำเร็จสามารถนำเสาตะเคียนขึ้นจากแม่น้ำป่าสักได้ และอัญเชิญไปไว้ที่วัดสูง จนถึงปัจจุบันนี้ และทุกปีจะมีการประกอบพิธีอาบน้ำหรือรดน้ำรูปปั้นแม่ย่าตะเคียน รดน้ำเสาตะเคียน ผู้คนจะเดินทางมากราบสักการะขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ประสบความสำเร็จในด้านต่าง ๆ บางคนได้นำชุดไทย สไบ เครื่องแป้ง น้ำอบน้ำหอม รวมทั้งของเครื่องเซ่นต่าง ๆ มาถวายด้วยเช่นกัน ขณะที่งานประเพณีสงกรานต์วัดสูงหรือสรงน้ำพระวัดสูง ปัจจุบันยังคงรักษาเป็นเอกลักษณ์ประเพณีปฏิบัติเรื่อยมา จนถึงปัจจุบัน
ร.ต.สุประวีณ์ บุญธิคำ บรรณาธิการข่าว รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น