เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อัยการ ตำรวจ ร่วมพูดคุยกับ “เจ๊เอ๋สระบุรี”เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงในการตรวจค้นหลังเจ๊เอ๋ ไม่สบายใจเพราะครอบครัวได้รับผลกระทบ

จากกรณี “เจ๊เอ๋” นางสาวณัฐวรินทร์ เกษมสารพิพัฒน์  เจ้าหนี้คนดังใน จ.สระบุรี ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ กร.อมน.สระบุรี  เข้าตรวจค้นบ้าน ในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลหนองปลาไหล อำเภอเมืองสระบุรี   โดยในวันนี้(12 ธ.ค.66)  นางสาวณัฐวรินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ (เจ๊เอ๋)  ได้เดินทางมาที่ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองสระบุรี ชั้น 3 เพื่อเข้ารับฟังการชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ อัยการและเจ้าหน้าที่ที่เข้าตรวจค้น

          นายอรรถการณ์ จิตถวิล นายอำเภอเมืองสระบุรีได้ชี้แจงว่าในการดำเนินการตรวจค้นได้ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างถูกต้อง ไม่ได้มีการข่มขู่คุกคามแต่ประการใดซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มีการบันทึกภาพขั้นตอนในการค้นทุกขั้นตอน  ซึ่งในการค้นก็ไม่พบอะไรที่เป็นข้อมูลที่เป็นสิ่งผิด จึงขอให้เจ๊เอ๋สบายใจในการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ได้

        ด้านเรือเอก ประกฤติ แสงอาวุธ รองอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดสระบุรี  ได้กล่าวว่าในวันนี้ในฐานะอัยการคุ้มครองสิทธิได้เข้าร่วมเพื่อรับฟังข้อปัญหาหรือข้อกังวลใจที่เจ๊เอ๋อาจจะได้รับจากเจ้าหน้าที่หรือไม่พอใจในการกระทำของเจ้าหน้าที่พร้อมให้คำแนะนำด้านสิทธิแก่เจ๊เอ๋ พร้อมทั้งชี้แจงข้อปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายให้เจ๊เอ๋ได้รับทราบ รวมทั้งยังฝากถึงเจ๊เอ๋หากมีข้อสงสัยหรือต้องการความช่วยเหลือด้านสิทธิ์ให้เข้ามาปรึกษาที่สำนักงานอัยการได้หากรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม

             เจ๊เอ๋ได้กล่าวว่าในวันนี้ที่ตนเข้ามาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่นั้นเนื่องจากหลังที่ถูกบุกตรวจค้นบ้านในวันนั้นตนเองและครอบครัวได้รับผลกระทบในหลายๆด้าน รู้สึกไม่สบายใจไม่พอใจ โดยคิดว่าเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุหรือไม่  เหมือนตนถูกเจ้าหน้าที่รังแก   วันนี้จึงอยากมารับฟังคำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่กับการปฏิบัติการในเหตุการณ์วันนั้น 

            ซึ่งหลังจากเจ๊เอ๋ได้ฟังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายชี้แจ้ง  และพูดคุยในครั้งนี้แล้ว  ตนก็สบายใจในระดับหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงให้ได้รับทราบแต่ตนก็ยังไม่คลายข้อข้องใจ  ดังนั้นตนจึงขอใช้สิทธิในการที่จะดำเนินการหรือดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่หรือบุคคลใดๆที่ตนรู้สึกว่าละเมิดสิทธิของตนเอง และทำให้เดือดร้อน  และในกรณีของของตนหากจะมีลูกหนี้ของตนจะมาเข้าขอไกล่เกลี่ยตนก็พร้อมยินดีให้ความร่วมมือกับทางราชการ

      โดยนายอำเภอเมืองสระบุรีได้กล่าวในตอนท้ายว่าการดำเนินโครงการของรัฐบาลในเรื่องหนี้นอกระบบนั้นเพื่อเป็นการลดการเอาเปรียบจากเจ้าหนี้และลูกหนี้สร้างความเป็นธรรมให้กับทั้งสองฝ่ายโดยไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งเจ้าหนี้หรือดำเนินการสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่เป็นผลกระทบต่อชีวิตประจำวันในการทำมาหากินของเจ้าหนี้หากเจ้าหนี้ดำเนินการทุกอย่างตามกฎหมายอย่างถูกต้อง     ขณะนี้ทางจังหวัดสระบุรีมียอดลูกหนี้ที่มาขอลงทะเบียน ตั้งแต่วันที่1 ธันวาคม จำนวน.1,075 ราย วงเงินประมาณ 49 ล้านบาท ส่วนจำนวนเจ้าหนี้  634  ราย

          ทั้งนี้กระทรวงมหาดไทยยังคงเปิดรับลงทะเบียนพี่น้องประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้นอกระบบ ทั้งทางออนไลน์ที่ https://debt.dopa.go.th หรือวอร์คอินได้ ณ ที่ว่าการอำเภอ หรือสำนักงานเขตทั่วประเทศ โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชนในพื้นที่

ร.ต.สุประวีณ์  บุญธิคำ บรรณาธิการข่าว รายงาน