
สระบุรี รวบแล้วมือทุบศาลหลักเมืองสระบุรี เจ้าตัวสารภาพ เป็นคนก่อเหตุจริง เกิดจากอาการเมา และเครียดสะสม ถูกคนใส่ร้ายป้ายสี
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 66 มี ผู้ก่อเหตุทุบทำลายกำแพงอิฐ และทำลายข้าวของบริเวณศาลหลักเมืองสระบุรี ส่งผลให้เกิดความเสียหาย ทำร้ายจิตใจ คนสระบุรี ต่างสาปแช่ง วิจารณ์การกระทำข องคนร้าย ที่ย่ำยีจิตใจสร้างความสะเทือนใจผู้ ศรัทธา เป็นอย่างมาก ให้เจ้าหน้าที่จับตัวคนร้าย มาลงโทษให้ได้โดยเร็ว
พันตำรวจเอก สุริยะ สุดกังวาล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองสระบุรี จึงมอบหมายให้ ชุดสืบสวนเร่งติดตามหาเบาะแสคนร้าย มาให้ได้ ต่อมาในวันนี้ 7 มิ.ย. 66 พ.ต.ต.ยศธเดช สุขเทียบ สารวัตรสืบสวน สภ.เมืองสระบุรีพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตามแกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิด จนพบรถต้องสงสัย จึงติดตามไปยังหมู่บ้านแห่งหนึ่ง และสอบถามคนในพื้นที่ จนทราบว่าบ้านอยู่บริเวณใด จึงสอบถามชาวบ้าน และเรียกผู้ต้องสงสัยมาสอบถาม จนในที่สุด ซึ่งเจ้าตัวรับว่าเป็นคนทำ ทราบชื่อต่อมาคือ นาย อนุชา ธุวัฒน์ อายุ 27 ปี พักอาศัยบริเวณ หมู่ 1 ต.ดาวเรือง อ.เมือง จ.สระบุรี จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมายัง สภ.เมืองสระบุรี
พ.ต.ต.ยศธเดช สุขเทียบ สารวัตรสืบสวน สภ.เมืองสระบุรี เล่าว่า ทีมงานสืบสวนได้ไล่กล้องวงจรปิดหลังจากเกิดเหตุ ก็ค่อยๆไล่ไปตามเส้นทาง จนกระทั่งพบรถต้องสงสัยหายอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง จากนั้นเราได้หาข้อมูลภาคพื้นดินว่า บ้านหลังนี้เป็นของใคร มีรถอะไรบ้าง และทราบว่ามี รถต้องสงสัยคันนี้อยู่ ในเวลาใกล้เคียงกัน แล้วก็รู้ว่าเขาทำอะไรอยู่ไหน วันนี้ช่วงเย็น จึงได้ไปเชิญตัว ก็พบตัวเขา และได้พูดคุย ซึ่งเขาก็รับว่า เป็นบุคคลที่มาก่อเหตุในวันนั้น ส่วนสาเหตุมาจาก อาการเมา และมีความเครียด ความกดดัน ในชีวิตตัวเอง พอเมาเสร็จ ก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ น้อยใจในชีวิต ก็เลยมาที่ศาลหลักเมือง มาก่อเหตุดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสารเสพติดเบื้องต้น เขาก็ยินยอม สมัครใจตรวจ ซึ่งเขาไม่ได้เสพสารเสพติดใดๆทั้งสิ้น ในเบื้องต้นก็ไม่พบและตรงกับคำให้การของเขา ซึ่งจะซักถามรายละเอียดและจะส่งตัวให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาในส่วนของคดีต่อไป
นาย อนุชาฯ ได้ให้การว่า ตนเองโดนกดดันมาก และโดนใส่ร้ายป้ายสี มีคนด่าตัวเองว่า จัญไรบ้านเมือง และหาว่าตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจบ้าง ทหารบ้าง เวลาตนไปทำงาน ที่ไหนจะโดนแบบนี้ประจำ ตนเองทำงานรับจ้างตัดหญ้าทั่วไป ในวันเกิดเหตุ มีอาการเมา และได้ขี่รถมาที่ศาลหลักเมือง ซึ่งทุกครั้งก็ไม่เป็นแบบนี้ แต่ก็ยอมรับสารภาพทุกอย่าง พึ่งมาสำนึกผิดที่หลัง ต่อไปจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก และอยากขอขมาศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ด้วยที่กระทำแบบนี้เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา ทำให้เสียทรัพย์ โดยในวันพรุ่งนี้(8 มิ.ย.66 เจ้าตัวประสงค์จะไปขอขมายัง ศาลหลักเมืองสระบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่จะนำผู้ต้องหาไปขอขมาและส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ร.ต.สุประวีณ์ บุญธิคำ
/บรรณาธิการข่าว รายงาน
CR:สมยศ พิมมะศร 0819940177
ภาพข่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น