อธิบดีกรมโยธาฯ รุดตรวจสอบตลิ่งริมแม่น้ำป่าสัก จ.สระบุรี ทรุดตัวพังทลายเร่งวางมาตรการช่วยเหลือด่วน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนริมน้ำ
วันนี้ (20 ตุลาคม 2564 ) เวลา 13.00 น. นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง พร้อมด้วย นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง รองอธิบดี นายชาญวิชญ์ สิริสุนทรานนท์ ผู้ตรวจราชการกรม นายสุวพงษ์ ภูนาคพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนและพัฒนาตามผังเมือง และคณะ ลงพื้นที่จังหวัดสระบุรี เพื่อตรวจสอบสภาพตลิ่งสไลด์ทรุดตัวพังทลาย บริเวณวัดบ้านกอก หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านแก้ง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ และวัดหงษ์ดาราวาส หมู่ที่ 1 ตำบลนาโฉง อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี หลังจากแม่น้ำป่าสักลดระดับลง พร้อมวางมาตรการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนโดยเร่งด่วน โดยมีนายสมภพ สมิตะสิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี นางสาวสถาพร ลิ่มพันธ์ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสระบุรี นายประทีป บริบูรณ์รัตน์หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสระบุรี ว่าที่เรือตรี ศรัณยวัชร พูลสวัสดิ์ นายอำเภอเมือง และนายวรวิทย์ ยอแสง นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมลงพื้นที่และให้การต้อนรับ
อธิบดี กล่าวว่าหลังจากกรมฯ ได้ตรวจสอบสาเหตุและความเสียหายของพื้นที่ตลิ่งริมแม่น้ำป่าสักในบริเวณที่เกิดการทรุดตัวพังทลาย สาเหตุเบื้องต้นพบว่าที่ผ่านมาฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักเพิ่มสูงขึ้นเป็นเวลาต่อเนื่องหลายสัปดาห์ ทำให้ดินบริเวณริมตลิ่งซึ่งเป็นดินปนทราย อุ้มน้ำไว้ปริมาณมากและเกิดความอ่อนตัว ต่อมาระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักลดลงอย่างรวดเร็ว จึงทำให้ดินในบริเวณพื้นที่ตลิ่งริมแม่น้ำป่าสัก เช่น บริเวณวัดบ้านกอก หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านแก้ง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ เกิดการสไลด์ทรุดตัวพังทลาย ส่งผลให้อาคาร บ้านเรือน ที่พักอาศัยของประชาชน ศาสนสถานของวัด ได้รับความเสียหาย โดยมีพื้นที่ริมตลิ่งได้รับความเสียหาย รวมความยาวประมาณ 180 เมตร และบริเวณวัดหงษ์ดาราวาส และบ้านของนางสมคิด เรียนไธสง เลขที่ 4 หมู่ที่ 1 ตำบลนาโฉง อำเภอเมือง มีพื้นที่ริมตลิ่งได้รับความเสียหาย รวมความยาวประมาณ 130 เมตรและได้ให้กำลังใจกับชาวบ้านพร้อมคำแนะนำการปักเขตแสดงความเป็นเจ้าของในเขตพื้นที่ที่ตลิ่งเสียหายเพื่อมีผลทางกฎหมาย ซึ่งหลังจากสำรวจสภาพพื้นที่ริมตลิ่งแล้ว กรมฯ ได้กำหนดมาตรการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ด้วยการจัดสรรงบประมาณปี 2565 คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 สำหรับแผนระยะยาวนั้น กรมฯ จะดำเนินการสำรวจสภาพพื้นที่ริมตลิ่งบริเวณริมแม่น้ำป่าสักที่ได้รับความเสียหายทั้งหมด เพื่อนำไปออกแบบเขื่อนป้องกันตลิ่ง และนำเข้าแผนงานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งในปีงบประมาณ 2566 เป็นต้นไป
ในการนี้ นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) ตระหนักถึงปัญหาการพังทลายของตลิ่งริมแม่น้ำ เพราะทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชนและส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม สภาพแวดล้อม จึงมีความจำเป็นที่จะต้องป้องกันและแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่อลดความเสียหายและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน จึงสั่งการให้กรมโยธาธิการและผังเมือง ประสานจังหวัดดำเนินการสำรวจตรวจสอบสภาพพื้นที่ตลิ่งริมแม่น้ำที่ถูกกัดเซาะและพังทลาย และอาจจะเป็นอันตรายต่อประชาชน พร้อมรายงานผลการสำรวจตรวจสอบสภาพพื้นที่ที่ถูกกัดเซาะและพังทลายเพื่อเป็นข้อมูลในการเตรียมความพร้อมและจัดทำแผนงาน/โครงการที่จะดำเนินการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งเพื่อป้องกันปัญหาการพังทลายของตลิ่งริมแม่น้ำและลดการสูญเสียทรัพย์สินของประชาชน วัด และสถานที่ราชการ
นอกจากนี้
กรมโยธาธิการและผังเมือง ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากหน่วยงานราชการ และกรมอุตุนิยมวิทยา
การแจ้งเตือนภัยของจังหวัด
จะได้เตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับปัญหาภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที
พร้อมทั้งสังเกตและสำรวจพื้นที่ตลิ่งริมแม่น้ำ
หากพบรอยร้าวแยกและการทรุดตัวที่ผิดปกติ
สามารถแจ้งไปยังสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดทุกจังหวัด
เพื่อเข้าตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากกรณีตลิ่งริมแม่น้ำพังทลายให้เร็วที่สุด...
อนึ่งในขณะที่ ท่านอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง เดินทางเข้าตรวจสอบพื้นวัดบ้านกอก ได้เข้านมัสการ พระอธิการชัยณรงค์ อินฺทวณฺโณ (เจ้าอาวาส) ทราบว่าขณะตลิ่งทรุดตัว มี ที่พักสงฆ์ พร้อมกุฏิเจ้าอาวาส ขณะที่ท่านเจ้าอาวาส จำวัดอยู่ในกุฏิ แต่หนีออกมาได้ ขณะกุฏิพังลงไปในแม่น้ำอย่างรวดเร็วทั้ง 5 หลัง ท่านอธิบดีจึงได้ปวารณาตัวกับเจ้าอาวาสว่า จะหาทางช่วยเหลือในการก่อสร้างกุฏิทั้ง 5 หลัง ให้กับขึ้นมาใหม่ อาจจะจัดหาทุนมาในรูปแบบผ้าป่า มาช่วยก่อสร้างฟื้นฟู ให้วัดได้ใช้ประโยชน์ ต่อไป
ร.ต.สุประวีณ์ บุญธิคำ/บรรณาธิการข่าว/ศูนย์ข่าวออนไลน์สระบุรีบีทีเคนิวส์/รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น