ความคืบหน้า กับคดีคนร้ายยิงเซียนไก่ชนที่อำเภอหนองโดน
จังหวัดสระบุรี เมื่อเดือนพฤษภาคม ผ่านมาเกือบ 4 เดือนตำรวจรวบตัวหนึ่งในผู้ก่อเหตุได้แล้ว
จากเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายก่อเหตุ ยิงถล่ม นายสุรเดช หรือหลอด มัทราช เซียนไก่ชน วัย 41ปี เสียชีวิตในฟาร์มเลี้ยงไก่ชน ที่ตำบลบ้านโปร่ง อำเภอหนองโดน จังหวัดสระบุรี เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งตำรวจ สภ.หนองโดน พยายามเร่งรัดคดี ลงพื้นที่หาเบาะแส กลุ่มคนร้ายจนกระทั่งได้จับกุม นายภานุพงศ์ ญานอรรถ อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุได้ หลังกบดานที่ จังหวัดอุบลราชธานี
เมื่อ ( 9 ก.ย.64 ) พลตำรวจตรี ชยานนท์ มีสติ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี พร้อมพ.ต.อ.อธิวัฒน์ นุชถาวร ผกก.สภ.หนองโน พ.ต.อ.จิรัฎฐ์ ดอกไม้ ผกก.กก.สส.ภ.จว.สระบุรี ได้ เปิดเผยว่า ก่อนจะควบคุมตัว นายภานุพงศ์ ญานอรรถ อายุ 40 ปี มี ภูมิลำเนาอยู่ที่ บ้านเลขที่ 340 ม. 4 ต. วังศาลา อ. ท่าม่วง จ. กาญจนบุรี ผู้ต้องหา ได้เข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ ก่อนหลบหนีไปกบดานบ้านญาติที่ จ.อุบลฯ ตำรวจได้สอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ จำนวน 12 ปาก และหลังเกิดเหตุพบวัตถุพยานบริเวณจุดเกิดเหตุ และภาพวงจรปิดพบ รถยนต์ต้องสงสัยขับออกจากจุดเกิดเหตุ โดยตำรวจเชื่อว่า เป็นของผู้ก่อเหตุ จึงตรวจสอบ พบเป็นรถ นายภานุพงศ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมสังหาร จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับ เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน จากนั้นตำรวจจึงสืบหาตัว กระทั่งวันที่ 8 กันยายน เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สระบุรีและ ผกก.สส.ภ.จว.อุบลราชธานี ได้ร่วมกันบูรณาการเข้าไปจับกุม นายภานุพงศ์ ได้ที่บริเวณ โรงพยาบาลตาลสุม ต.ตาลสุม อ.ตาลสุม ขณะไปซ่อนตัวอยู่ที่บ้านญาติในจังหวัดอุบลราชธานี
แต่จากการสอบปากคำผู้ต้องหายังให้การภาคปฏิเสธ ถึงอย่างไรก็ตาม ตำรวจเชื่อว่า จากพยานหลักฐานที่พบ และเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหว ตำรวจมั่นใจว่ามือปืนที่ลงมือลั่นไกสังหารเซียนไก่ชน คือ นายภานุพงศ์ฯ เนื่องจากมีมูลเหตุความขัดแย้งเรื่องยาเสพติดในพื้นที่ นอกจากนี้ตำรวจยังมีหลักฐานอีกว่า เหตุการณ์นี้ยังมีผู้ก่อเหตุร่วมอีก 3 คน ที่กำลังหลบหนี รวมถึงผู้ว่าจ้างฆ่าอีก 1 คนอีกด้วย
หลังจากนี้ทางตำรวจจะนำตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดสระบุรี
ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน
และรวบรวมพยานหลักฐานเชื่อมโยงกลุ่มผู้ร่วมก่อเหตุที่เหลือและผู้ว่าจ้างวาน
ก่อนขอศาลจังหวัดสระบุรี ออกหมายจับต่อไป
จ.ส.อ.สุประวีณ์ บุญธิคำ/บรรณาธิการข่าว /รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น