โควิด-19 จังหวัดสระบุรี วันนี้ ป่วยรายใหม่ 371 ราย เสียชีวิต 3 ราย จากโรงงาน สู่ครอบครัว มากสุด อ.แก่งคอย อ.พระพุทธบาท อ. หนองแค ตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ ยังมีความเสี่ยง สธ.แนะฉีดวัคซีน
โควิด-19 สระบุรี 23 สิงหาคม ยอดผู้ติดเชื้อวันนี้ลดลง
รายใหม่วันนี้ 371 รายในการตรวจยืนยัน 276 รายและตรวจเชิงรุก 95 ราย เสียชีวิต 3 ราย อ. แก่งคอย 1 ราย อ. เฉลิมพระเกียรติ 1 ราย ต่างจังหวัด 1 ราย
พบผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ยังเป็นผู้สัมผัสเชื้อรายก่อนหน้า ในโรงงาน ที่ทำงาน
และนำมาสู่ครอบครัว มากสุดในเขต อ.แก่งคอย
อ.พระพุทธบาท อ. หนองแค ตามลำดับ
ซึ่งยังคงพบติดเชื้อในครอบครัว
หญิงตั้งครรภ์ยังมีความเสี่ยงแนะฉีดวัคซีนลดป่วยหนักและเสียชีวิต
ผู้ป่วยตอนนี้
ยังพบผู้ป่วยจากการสัมผัสร่วมอย่างต่อเนื่อง คงต้องรักษามาตรการอย่างเข้มงวด
ดูแลตนเองคนใกล้ชิดและคนอื่น เมื่อพบว่าตัวเองผลตรวจว่าติดเชื้อ ต้องรีบแยกกักตัว
ติดต่อโรงพยาบาลใกล้บ้าน อสม. เจ้าหน้าที่สาธารรณสุขเพื่อการควบคุมโรค และเข้าระบบรักษาพยาบาล (สระบุรีไม่ทิ้งกัน โทร 09 5545 2045) และระบบส่งต่อผู้ป่วย 1669
จากความรุนแรงของโควิด 19ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุข
เชิญชวนหญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ 12
สัปดาห์ขึ้นไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19
หากติดเชื้อเสี่ยงอาการหนัก ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 2-3
เท่าของหญิงไม่ตั้งครรภ์ ส่วนแม่ที่ติดเชื้อสามารถให้นมลูกได้
ยกเว้นหากแม่ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ กระทรวงสาธารณสุข จึงได้เร่งรณรงค์ให้หญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์
12 สัปดาห์ขึ้นไป เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 ที่คลินิกฝากครรภ์ในโรงพยาบาลใกล้บ้าน
เนื่องจากหญิงตั้งครรภ์ที่ติดโควิด-19 มีความเสี่ยงอาการหนัก
ต้องเข้าไอซียู ใช้เครื่องช่วยหายใจ 2-3
เท่าของหญิงไม่ตั้งครรภ์ และเสียชีวิต 1.5 - 8 คนในทุก 1,000 คน โดยเฉพาะหากมีอายุ 35 ปีขึ้นไป อ้วน
มีโรคประจำตัว และมีภาวะครรภ์เป็นพิษ นอกจากนี้ยังมีผลต่อทารกในครรภ์
ทำให้คลอดก่อนกำหนด/ เด็กตายก่อนคลอด/ เข้าไอซียู1.5 - 5
เท่า ติดเชื้อโควิดจากแม่ร้อยละ 3- 5
โดยราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย
มีข้อมูลวิชาการรองรับว่าสามารถฉีดแบบชิโนแวคสลับแอสตร้าเชนเนก้าได้, แอสตร้าเชนเนก้า 2 เข็ม, ชนิด mRNA
2 เข็ม
โดยอาจเกิดอาการข้างเคียงเล็กน้อยเช่นเดียวกับคนทั่วไป
และควรฉีดห่างจากวัคชีนป้องกันโรคอื่น ๆ อย่างน้อย 2 สัปดาห์
สำหรับผู้ที่วางแผนตั้งครรภ์ขอให้มั่นใจว่าวัคซีนมีความปลอดภัย
สามารถฉีดวัดชีนได้ โดยไม่ต้องเว้นระยะการมีบุตร ไม่ต้องตรวจการตั้งครรภ์ก่อนฉีด
และไม่มีหลักฐานว่าวัคซีนทำให้มีบุตรยากหากฉีดวัคซีนไปแล้วพบว่าตั้งครรภ์
ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลว่าทำให้ทารกพิการแต่กำเนิด ไม่ต้องยุติการตั้งครรภ์
หากตั้งครรภ์หลังฉีดวัคซีนเข็ม 1
ให้เลื่อนไปฉีดเข็ม 2 หลังอายุครรภ์ 12
สัปดาห์ และขอให้หญิงตั้งครรภ์ป้องกัน ตัวอย่างเคร่งครัด
ประเมินความเสี่ยงด้วยแอปพลิเคชันไทยเซฟไทย
ส่วนหญิงตั้งครรภ์ที่ยังฉีดวัคซีนไม่ครบ 2 เข็ม,ตั้งครรภ์ 28 สัปดาห์ขึ้นไป, มีภาวะครรภ์เสี่ยงสูง
ควรเน้นการทำงานที่บ้าน กรณีหญิงตั้งครรภ์ที่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง
หรือมีอาการระบบทางเดินหายใจ ควรตรวจหาเชื้อด้วยชุดตรวจเบื้องต้น ATK หรือไปตรวจที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน
หากติดเชื้อและไม่มีอาการให้แยกรักษาที่บ้านได้ หากเหนื่อยหอบ
มีไข้สูงให้ไปโรงพยาบาลทันที กรณีแม่ติดเชื้อหลังคลอด หากลูกไม่ติดเชื้อ
สามารถกอดและอุ้มลูก ให้ลูกดูดนมแม่ได้ โดยสวมหน้ากากอนามัย
ล้างมือก่อนและหลังอุ้มลูก แต่งดหอมแก้ม หรืออาจใช้วิธีปั้มนมให้คนเลี้ยงป้อนแทน
จะงดให้นมแม่เฉพาะกรณีที่แม่กินยาฟาวิพิราเวียร์เท่านั้น เนื่องจากยาจะออกมาทางน้ำนมได้
ทั้งนี้ ตั้งแต่ 1 เมษายน - 18 สิงหาคม
2564 มีหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อ 2,327
ราย เฉลี่ย 50-60 รายต่อวันเสียชีวิต 53 ราย ทารกติดเชื้อ 119 ราย เสียชีวิต 23 ราย สุดท้ายกระทรวงสาธารณสุขแนะว่าขอให้หญิงตั้งครรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์ควรไปรับบริการวัคซีนอย่างเร็ว เพื่อลดความรุนแรงจากโรคโควิด
.....ขอให้สิ่งดีๆ เกิดขึ้นทุกวัน
อุปสรรคปัญหาทุกอย่างนั้นหมดสิ้นไป....
ข่าว /
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระบุรี / 036 223118 สระบุรีไม่ทิ้งกัน โทร 09
5545 2045
จ.ส.อ.สุประวีณ์ บุญธิคำ /บรรณาธิการข่าว รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น