สระบุรี- ชาวอำเภอแก่งคอยร่วมถ่ายภาพรำลึกชุมทางแก่งคอย ดินแดนประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2
ประชาชน
ชาวแก่งคอย ส่วนราชการ องค์กรเอกชน สมาคมชมรม ร่วมบันทึกภาพรำลึก
จากปัจจุบันที่จะกลายเป็นอดีต สถานีรถไฟชุมทาง แก่งคอย จุดสำคัญทางยุธศาสตร์ ในสงครามโลกครั้งที่
2 เพื่อไว้เป็นอนุสรณ์ไว้ให้ชนรุ่นหลังได้ทราบวีรกรรมของบรรพบุรุษไทยในสงครามโลกครั้งที่
2 ในอดีตก่อนการเปลี่ยนแปลงเป็นสถานีรถไฟความเร็วสูง
เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2564
ที่บริเวณหน้าสถานีรถไฟแก่งคอย อำเภอแก่งคอยจังหวัดสระบุรี ชาวอำเภอแก่งคอย แต่งกายย้อนยุค สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ในการบันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว
ไว้เป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของคนแก่งคอย โดยมี นายเอกพร จุ้ยสำราญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีอดีตนายอำเภอแก่งคอย
ให้เกียรติถ่ายภาพเป็นที่ ร่วมกับ นายดุรงค์ฤทธิ์ ศิริวัฒนพันธ์ นายอำเภอแก่งคอย นายประสิทธิ์
พิบูลย์ชัยสิทธิ์ ประธานพุทธสมาคมปึงเถ่ากงม่าแก่งคอย หัวหน้าส่วนราชการ ภาครัฐ องค์กรเอกชน
ผู้บริหารสถานศึกษา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และแขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก
ด้วยการรถไฟแห่งประเทศไทยจะดำเนินการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาคช่วงกรุงเทพฯ-หนองคาย
ระยะที่ 1 สัญญาที่ 4 - 7
งานโยธาช่วงสระบุรีแก่งคอยซึ่งการดำเนินงานก่อสร้างในครั้งนี้จะมีการรื้อถอนพื้นที่ประวัติศาสตร์บางส่วน
ที่อยู่ในเขตการรถไฟ เช่น อาคารโรงแรมไทยนิยม และอาคารใกล้เคียง
อำเภอแก่งคอยจึงได้ร่วมมือกับพุทธสมาคมปึงเถ่ากงม่า แก่งคอย ได้ จัดกิจกรรมภาพบันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวไว้เป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของคนแก่งคอย
ก่อนที่สถานที่แห่งนี้จะมีการรื้อถอน
เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของแก่งคอย
เพื่อให้ชาวแก่งคอยได้ทราบข้อเท็จจริง
ขอแจ้งข่าวการสร้างรถไฟความเร็วสูงให้ชาวแก่งคอยได้ทราบ
การสร้างรถไฟความเร็วสูงเป็นโครงการที่ไม่เกี่ยวข้องการโครงการรถไฟทางคู่ แต่จะมีผลกระทบจะต้องรื้ออาคารเก่าหลังสถานี
แก่งคอย เช่นโรงแรมไทยนิยม และสโมสรรถไฟ
รวมไปถึงบ้านพักรถไฟเดินรถจะต้องถูกรื้อเป็นบางส่วน (แต่สถานีแก่งคอยไม่ถูกรื๊อ) โครงการรถไฟความเร็วสูงช่วงแรกจะสร้างจาก
กรุงเทพ-นครราชสีมา ใช้ความเร็ว 250 กม./ชม.โดยจะมีอาคารสถานีสระบุรีอยู่ใกล้ๆโรบินสัน
วันที่ 2 เมษายน 64
เปิดโอกาสให้ประชาชนได้มาถ่ายรูปอาคารต่างๆหลังสถานีรถไฟไว้เป็นที่ระลึกก่อนที่ทุกอย่างจะกลายเป็นอดีต
ขณะนี้มีการทำการสำรวจเส้นทางและดำเนินการต่างๆตามกฎหมายเพื่อจะมีการสร้างรถไฟความเร็วสูง
ช่วงที่ 2 จากนครราชสีมา-หนองคาย แต่ยังไม่ถึงขั้นการดำเนินการเปิดประมูลงาน ประชาชนที่จะเดินทางไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ( สปปล).ยังไม่สามารถที่จะเดินทางโดยรถไฟความเร็วสูงได้ เนื่องจากส่วนต่อขยายช่วง
หนองคาย-เวียงจันทร์ยังไม่มีข้อตกลงใดๆกับ สปปล. แต่ในอนาคตประชาชนสามารถจะเดิน
ทางได้โดยรถไฟ(ด่วน)ปกติ ขณะนี้การรถไฟฯลาวกำลังสร้างทางช่วง
ท่านาแล้ง-นครหลวงเวียงจันทร์
ภาพรวมการก่อสร้างคืบหน้ามากกว่า 50 เปอร์เซ็นซึ่งสถานีท่านาแล้งอยู่ใน
สปปล.สร้างเชื่อมต่อกับสถานีหนองคายฝั่งประเทศไทยแล้ว ปัจจุบันก็มีรถไฟวิ่งระหว่าง หนองคาย-ท่านาแล้ว
ให้ประชาชนชน-ลาวไทยได้เดินทางไปมาได้วันละ 4 ขบวน ถ้าการก่อสร้างช่วง
ท่านาแล้ง-เวียงจันทร์เสร็จ ประชาชนชาวแก่งคอยจะเดินทางจากแก่งคอยไปถึงเวียงจันทร์ได้ทางรถไฟ(ปกติ)ได้อย่างสดวก ในส่วนของโรงงานมักกะสันขอยืนยันว่าไม่มีแผนงานมาสร้างในพื้นที่แก่งคอย มีเพียงแผนงานการสร้างโรงรถจักรแห่งใหม่
ซึ่งผ่านการประมูลและออกแบบแล้ว
แต่ยังไม่สามารถก่อสร้างได้เนื่องจากผู้ประมูลรายอื่นได้ไปร้องเรียนกับ
ปปช.การก่อสร้างครั้งนี้ไม่มีผลกระทบใดๆกับประชาชน มีข้อดีคือจะลดปัญหาจารจรด้านสุดถนนวัชรอุทัยกุลและทางตัดก่อนเข้าวัดราษฎร์พัฒนา
จะสร้างเป็นอุโมงค์ลอดใต้โรงงานเพื่อลดปัญหาการจราจร คนธรรมดา ม้าตัวเดียว รายงาน
จ.ส.อ.สุประวีณ์ บุญธิคำ /0944311315/บรรณาธิการข่าว/รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น