วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2563

สระบุรี-หม่อมราชวงศ์ จิราคม กิติยากร เปิดงาน สภาส่งเสริมวัฒนธรรมอาเซียน สืบสานตำนานศิลป์ คติชนวิทยา ณ. โบสถ์พราหมณ์ เทวสถาน(บ้านบุญ)







 

สระบุรี-หม่อมราชวงศ์ จิราคม กิติยากร เปิดงาน สภาส่งเสริมวัฒนธรรมอาเซียน  สืบสานตำนานศิลป์ คติชนวิทยา ณ. โบสถ์พราหมณ์ เทวสถาน(บ้านบุญ)








เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2563 ที่ โบสถ์พราหมณ์ เทวสถาน(บ้านบุญ)บ้านโป่งตะขบ อำเภอวังม่วง จังหวัดสระบุรี หม่อมราชวงศ์ จิราคม กิติยากร เป็นประธานเปิดงาน"สืบสานตำนานศิลป์คติชนวิทยา"และ ท่านเจ้าศรีรัตน์ ณ ลำปาง ที่ปรึกษาอาวุโส สภาส่งเสริมวัฒนธรรมภาคเหนือ โดยมีนางสาวจุฑามาศ ณ สงขลา เจ้าของโบสถ์พราหมณ์ เทวสถานบ้านบุญ ต้อนรับและกล่าวรายงาน มี ผู้แทนศาสนา  ศ.ดร.บิชอป สุรพล บุญประถัมภ์ ศาสนาคริสต์,ดร.ประเสริฐ สุขศาสนน์กวิน ศาสนาอิสลาม,อมรินทร์ ปิยะสัจจะเดช ศาสนาซิกข์,สถิตย์ กุมาร ศาสนาฮินดู,ดร.ประกาย ณ สงขลา ศาสนาพุทธ,และคุรุอาจารย์ ร่วมบรรยายแลกเปลี่ยน ความรู้ เพื่ออยู่ร่วมกันอย่างสันติ มีความรู้ ความเข้าใจหลักคำสอนของแต่ละศาสนาและความเชื่อ













จากนั้น ได้มี พิธีมอบเกียรติบัตรให้กับ ผู้ประกอบสัมมาอาชีพ ใน สาขาโหราศาสตร์ เวชศาสตร์ นาฏศาสตร์  จากครูบาอาจารย์ จากจังหวัด ต่างๆ ทั่วประเทศ เข้าร่วมพิธีมากกว่า 2,000 คน








วัตถุประสงค์ของสภาส่งเสริมวัฒนธรรมอาเซียน  เพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างช่วยเหลือสนับสนุนงานทางราชการและการปฏิบัติงานขององค์กรต่าง ๆ ในการรักษาไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม จัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้เยาวชน และบุคคลทั่วไปเข้าใจหลักการปฏิบัติตามประเพณีที่สืบทอดกันมาอย่างถูกต้อง  ช่วยเหลือสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆของทุกศาสนาเพื่อให้เกิดความรัก ความสามัคคีในชุมชน   รวบรวมผู้มีความรู้ด้านคติชนวิทยาแขนงต่างๆ ประจำแต่ละท้องถิ่นเข้าไว้เป็นกลุ่มก้อนเดียวกัน เพื่อเป็นการยกย่อง ให้เกียรติและรักษาไว้ซึ่ง ความรู้ในแขนงนั้น ๆ อันจะเป็นประโยชน์ต่อเยาวชนรุ่นหลัง







สภาส่งเสริมวัฒนธรรมอาเซียน จึงได้ก่อตั้งสถานธรรมขึ้นภายใต้ชื่อ "เทวสถานบ้านบุญ" เป็นโบสถ์พราหมณ์เพื่อใช้ประกอบศาสนพิธี ในวันสำคัญต่าง ๆ และยังเป็นสถานที่สอนด้านพิธีกรรมทางศาสนา สภาส่งเสริมวัฒนธรรมอาเซียน ได้จัดงาน "สืบสานตำนานศิลป์คติชนวิทยา"เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติบุคคลผู้มีความรู้ความสามารถในแขนงวิชาต่าง ๆ ด้านคติชนวิทยาและจัดกิจกรรมสืบสานประเพณี วัฒนธรรม ที่หาดูยาก อันสืบสานมาแต่โบราณให้ได้ชมอีกหลากหลาย


กิจกรรม ศาสนสัมพันธ์รวมใจภักดิ์ ซึ่งเราได้เชิญตัวแทนของศาสนา ทั้งพุทธ คริสต์ อิสลาม พราหมณ์ ฮินดู และซิกซ์มาอยู่ร่วมกัน กิจกรรม ศาสนสัมพันธ์รวมใจภักดิ์ มีวัตถุประสงค์ เพื่อแสดงให้เห็นว่าทุกศาสนาในประเทศไทยนั้น มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเสมอมา  เพื่อแสดงให้เห็นว่าทุกศาสนามีความเท่าเทียม เสมอภาคกัน   เพื่อให้ทุกท่านเห็นถึงความสำคัญของศาสนา ซึ่งแต่ละศาสนานั้นถือกำเนิดและสืบทอดคำสอนต่อกันมาอย่างยาวนาน  เพื่อตอกย้ำให้ผู้นับถือศาสนาทุกทนได้ตระหนักว่าในยามที่ประเทศชาติ หรือโลกเข้าสู่ภาวะวิกฤต ศาสนาคือเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจก่อเกิดความสงบและสันติให้แก่ทุกสรรพสิ่งอย่างแท้จริง



สำหรับพุทธสถาน และ เทวสถานโบษพราหมณ์ (บ้านบุญ) บ้านโป่งตะขบ ต.วังม่วง อ.วังม่วง จ.สระบุรี สร้างขึ้นในพื้นที่ ที่มีความเชื่อว่าเป็นแหล่งวัฒนธรรมโบราณ ในอดีต  เพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาพุธและพราหมณ์  เป็นอาคารสองส่วน ส่วนหน้าใช้ประกอบพิธีพุทธ ส่วนในใช้ประกอบพิธีพราหมณ์ รูปแบบภายนอกเป็นอาคารทรงขอม   โดยมีการจัดพิธีบวงสรวงกราบไหว้บูชาเทพเทวา ครูบาอาจารย์ พิธี กวนสีผึ้ง  “อนันตเสน่หาวาจาเศรษฐี” มี ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช (ทนายกระดูกเหล็ก) เป็นประธานจุดเทียนมนต์พระเวทย์ พิธีกวนสีผึ้ง 4 ภาคแบบโบราณ เป็นพิธีกวนสีผึ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก  และต่อด้วยพิธีเทวาภิเษก ไอ้ไข่ รุ่น “อนันตเศรษฐี”  เป็นต้น



สำหรับแหล่งโบราณคดีบ้านโป่งตะขบเป็นชุมชนโบราณที่ปรากฏร่องรอยการตั้งถิ่นฐานอยู่อาศัยและหลักฐานเกี่ยวกับการฝังศพของคนยุคก่อนประวัติศาสตร์ สมัยโลหะหรือสมัยก่อน ประวัติศาสตร์ตอนปลาย โดยพื้นที่อยู่อาศัยและพื้นที่ฝังศพตั้งอยู่ใกล้กันสามารถแบ่งวัฒนธรรมออกได้เป็น 3 สมัย ย่อย วัฒนธรรมสมัยย้อยที่ 1 อายุประมาณ 3,300 ปี มาแล้ว หลักฐานสำคัญได้แก่การฝังศพในหลุมมีดินฉาบผนังหลุมวัฒนธรรมสมัยยย่อยที่ 2 อายุประมาณ 2,900 ปี มาแล้ว และวัฒนธรรมสมัยย่อยที่ 3 อายุประมาณ1,600 ปี มาแล้วโบราณวัตถุประเภทสำคัญได้แก่เศษภาชนะดินเผาตกแต่งด้วยลายเชือกทาบ เศษภาชนะดินเผาตกแต่ง ด้วยการทาน้ำดินสีแดง ขวานหินขัดขนาดเล็ก และเศษกำไลข้อมือทำจากหินอ่อนสีขาว นอกจากนี้ ยังพบเศษกระดูกสัตว์หลายชนิด เช่น วัวควาย เก้ง กวาง และหมู โบราณวัตถุเหล่านี้ บ่งชี้ว่าแหล่งโบราณคดีโรงเรียนบ้านโป่งตะขบอาจเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่แห่งหนึ่งงของคนยุคก่อนประวัติศาสตร์ ตอนปลาย


สำหรับหลักฐานแหล่งโบราณคดี จากสำนักศิลปากรที่ 3  พระนครศรีอยุธยาได้ส่งเจ้าหน้าที่มาสำรวจเบื้องต้นพบว่า บ้านโป่งตะขบเป็นชุมชนโบราณ ที่ปรากฏร่องรอยการตั้งถิ่นฐานอยู่อาศัยและหลักฐานเกี่ยวกับการฝังศพของคน ยุคก่อนประวัติศาสตร์ สมัยโลหะ หรือสมัยก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย โดยพื้นที่อยู่อาศัยและพื้นที่ฝั่งศพตั้งอยู่ใกล้กัน อารยธรรมโบราณที่มี อายุประมาณ 3,300 ปี มาแล้ว หลักฐานสำคัญได้แก่การขุดพบ การฝังศพในหลุมที่มีดินฉาบผนังหลุม และโบราณวัตถุประเภทสำคัญได้แก่ เศษภาชนะดินเผาตกแต่งด้วยลายเชือกทาบ เศษภาชนะดินเผาตกแต่ง ด้วยการทาน้ำดินสีแดง ขวานหินขัดขนาดเล็ก และเศษกำไลข้อมือทำจากหินอ่อนสีขาว นอกจากนี้ ยังพบเศษกระดูกสัตว์หลายชนิด เช่น วัวควาย เก้ง กวาง และหมู โบราณวัตถุเหล่านี้ บ่งชี้ว่าแหล่งโบราณคดี โรงเรียนบ้านโป่งตะขบอาจเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของคนยุคก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย นั่นคือมีอายุไม่น้อยกว่าสามพันปีมาแล้ว




 

จ.ส.อ.สุประวีณ์  บุญธิคำ /0944311315/  บรรณาธิการข่าว /รายงาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น