ผู้บริหาร สธ.
ตรวจเยี่ยมความพร้อมโรงพยาบาลในเส้นทางหลักช่วงเทศกาลปีใหม่
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข
นำทีมผู้บริหารลงพื้นที่ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่
ตรวจเยี่ยมความพร้อมของโรงพยาบาลในเส้นทางหลัก
ดูแลประชาชนช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
ห้องฉุกเฉินคุณภาพ ศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการ 1669 ตลอด 24 ชั่วโมง
วันนี้ (24 ธันวาคม 2562) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี
นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข
เป็นประธานปล่อยขบวนรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข
และผู้บริหารลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความพร้อมของโรงพยาบาล
และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ดูแลประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 ตามเส้นทางถนนสายหลักและสถานที่ท่องเที่ยว อาทิ สระบุรี ลพบุรี เชียงใหม่
เชียงราย ระยอง ชลบุรี สงขลา สุราษฏร์ธานี และนครศรีธรรมราช
นายแพทย์สุขุมกล่าวว่า
ในช่วง 7 วันเทศกาลปีใหม่
ได้ให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและโรงพยาบาลทั่วประเทศ
โดยเฉพาะที่อยู่บนถนนสายหลัก และสถานที่ท่องเที่ยว จัดเวร เพิ่มกำลังแพทย์ พยาบาล
บุคลากรสาธารณสุข ดูแลประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวตลอด 24 ชั่วโมง โดยเปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน
บูรณาการการทำงานกับศูนย์ความปลอดภัยทางถนนจังหวัด
ร่วมให้บริการที่จุดบริการประชาชนกับหน่วยงานที่
สำหรับโรงพยาบาลได้จัดระบบห้องฉุกเฉินคุณภาพ
ศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการหมายเลข 1669 รับเร็ว ส่งต่อถึงมือแพทย์อย่างรวดเร็ว
รถพยาบาลต้องได้มาตรฐาน เตรียมทีมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่เวชกิจฉุกเฉิน
ห้องผ่าตัด ไอซียู สำรองเตียง เลือด ออกซิเจน อุปกรณ์การแพทย์ ศูนย์ส่งต่อ
พร้อมให้บริการผู้ป่วยตลอด 24 ชั่วโมง
มีจำนวนพนักงานขับรถยนต์ที่ผ่านการอบรมตามจำนวนระยะที่กำหนด
และตรวจวัดแอลกอฮอล์ก่อนปฏิบัติหน้าที่ส่งต่อผู้ป่วยกรณีผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บให้ดำเนินการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในเลือดทุกราย
นอกจากนี้ ยังต้องเพิ่มมาตรการป้องกันเหตุความรุนแรงในสถานพยาบาล
โดยให้ทุกจังหวัดประสานตำรวจท้องที่ออกตรวจตรา
และให้รีบแจ้งเหตุกรณีมีผู้เข้ารับการรักษาจากเหตุทะเลาะวิวาท
ส่งเจ้าหน้าที่และกำลังพลให้เพียงพอต่อการระงับเหตุ
เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ ผู้ป่วยและญาติที่มารับบริการที่ห้องฉุกเฉิน
โดยจะดำเนินคดีผู้ก่อเหตุขั้นเด็ดขาดเพื่อเป็นตัวอย่างแก่สังคม
นายแพทย์สุขุมกล่าวต่อว่า
การมาเยี่ยมโรงพยาบาลสระบุรีและลพบุรี ซึ่งอยู่ในเส้นทางหลักสู่ภาคอีสาน
โดยโรงพยาบาลสระบุรีได้เตรียมความพร้อมดูแลผู้บาดเจ็บ เพิ่มจำนวนบุคลากร แพทย์ แพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน
พยาบาล เจ้าหน้าที่อย่างเพียงพอ สำรองเลือด ยาและเวชภัณฑ์ เตียงผู้ป่วยเพิ่ม เตรียมห้องฉุกเฉิน ห้องผ่าตัด
รวมทั้งมีระบบเครือข่ายส่งต่อผู้ป่วยอุบัติเหตุระหว่างโรงพยาบาลสระบุรี
และโรงพยาบาลใกล้เคียง อาทิ โรงพยาบาลพระพุทธบาท โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช
โรงพยาบาลนครนายก
จ.ส.อ.สุประวีณ์ บุญธิคำ/บรรณาธิการข่าว/รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น