ตำรวจสระบุรียังเจ๋งไม่เลิกวันเดียว
รวบแล้วบังโหดมือฆ่าสาวเปลือยหมกส้วม
รวบแล้วมือแทงสาวเปลือยโรงงานไก่คาส้วม แท้เป็นเพื่อนสามีหลังที่ผ่านมาคนร้าย เผย
เคยถูกสามีผู้ตายรุมกระทืบจนต้องลาออกจากงานหนีไปอยู่ จ.อยุธยา ขณะที่ 2 บิ๊ก ตร. คุมสอบสวนทำแผน
จากกรณีเมื่อวันที่ 28 ก.ค. 62
ที่ผ่านมา ที่ห้องเช่าเลขที่ 133/9
ต.แก่งคอย อ. แก่งคอย จ. สระบุรี
นาง สาว นันทนา พิทักษา อายุ 40 ปี
บ้านเลขที่ 16 ม. 18 ต.พรมสวัสดิ์ อ. พยุห์ จ. ศรีษะเกษ
สาวโรงงานไก่ชำแหละ ได้ถูกคนร้ายบุกเข้าไปในห้อง ขณะอาบน้ำ
จากนั้นคนร้ายได้ใช้มีดปลายแหลมแทง จนเสียชีวิตคาห้องน้ำ คนร้ายได้หลบหนีไป จนกระทั่ง สามีผู้ตาย นาย ซาอุดี
เจ๊มุ อายุ 42 ปี
เลิกจากงานกลับมาที่ห้องเช่าจนพบศพเมียถูกฆ่าตายในห้องน้ำเปลือยกาย
จนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ลงพื้นที่และเร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายต่อเนื่อง
------- ล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 ก.ค. ทางด้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. แก่งคอย
จ. สระบุรี
จะมีการแถลงข่าวในการติดตามจับกุมตัวคนร้าย รายนี้ได้แล้ว ในวันที่ 29
กค.ที่ผ่านมา และกำลังจะนำตัวมาแถลงข่าวในครั้งนี้ จากแหล่งข่าว ในการไล่ล่าติดตามตัวผู้ต้องหารายนี้ว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น สืบเนื่องมาจาก ตัวผู้ต้องหา ชื่อ นาย ชูไรดี
ยะโก๊ะ อายุ 33 ปี หรือ บังหมวก นั้น โดยที่ผ่านมาที่จะมาก่อเหตุฆ่า นส.
นันทนา พิทักษา นั้น นาย ชูไรดี นั้น เป็นเพื่อนกับ นาย
ซาอุดี เจ๊มุ อายุ 42
ปี สามีผู้ตาย โดยทราบว่า
ที่ผ่านมา ทั้งคู่เป็นเพื่อนกันและทำงานโรงไก่ในที่เดียวกัน
พร้อมทั้งยังเช่าห้องอยู่ใกล้กัน อีกด้วย
ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุ ช่วง 8
เดือน ได้เกิดเหตุ สามีผู้ตาย กับ นาย นาย ชูไรดี ยะโก๊ะ อายุ 33 ปี หรือ บังหมวก ได้มีปัญหากัน
และ สามีผู้ตายเอาพวกมารุมกระทืบ นายนาย ชูไรดี
ยะโก๊ะ อายุ 33 ปี หรือ บังหมวก จนรับบาดเจ็บเหตุเกิดที่ในโรงงาน จนกระทั่ง นาย ชูไรดี บังหมวก ต้องออกจากงาน
และหนีไปอยู่กับเพื่อน ที่ จ. อยุธยา
โดยก่อนไปพร้อมขู่ สามีผู้ตายและผู้ตายไว้ว่าถ้ากูกลับมาเจอกูจะฆ่าให้ตายไม่ว่าจะเป็นผัวหรือเมีย
---- สายข่าวชุดจับกุมเล่าต่อว่า จนกระทั่ง ก่อนวันเกิดเหตุ
2 วัน วันที่ 26 กค. นั้น นายนาย
ชูไรดี ยะโก๊ะ อายุ 33 ปี หรือ บังหมวก
ได้เดินทางกลับมาที่ห้องเช่า เพื่อมาหาแฟนสาวที่ ยังคงทำงานอยู่ แต่ว่า เมื่อมาถึงแฟนสาวไม่อยู่กลับบ้านเกิด นาย ชูไรดี หรือบังหมวก จึงได้เข้าอยู่ในห้อง
ไม่ไปไหน โดยในวันก่อนเกิดเหตุตนได้ซื้อเหล้ามานั่งกินคนเดียวจนเมาได้ที่
ด้วยความแค้นส่วนตัว จึงได้มือมีดเดินไปที่ห้อง ผู้ตาย ที่แรกนึกว่าสามีผู้ตายอยู่ด้วย
แต่เมื่อมาถึงประตูไม่ล็อกจึงได้เข้าไปพบว่าผู้ตายอาบน้ำอยู่
จึงได้เข้าไปและมีปากเสียงกันจนมีการต่อสู้จากนั้น นาย ชูไรดี บังหมวดใช้มีดแทงผู้ตายทันที และ ขับรถ จยย.หนีไปบ้านเพื่อน ที่จ.อยุธยา
จนกระทั่งตำรวจมาติดตามจับกุมได้ที่ บริเวณ ป่ากล้วย หมุ่ที่ 5 ต. ปากท่า อ.
ท่าเรือ จ. พระนครศรีอยุธยา จึงนำตัวมาดำเนินคดี และแถลงข่าวในครั้งนี้ ซึ่ง ช่วงบ่ายจะมีการนำตัวผุ้ต้องหาแถลงและทำแผน
------------- ต่อมาเมื่อเวลา
14.00 น. วันเดียวกัน ด้าน พล.ต.อ.
เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน
รอง.ผบ.ตร.(ปป) พล.ต.ท. มนู เมฆหมอก ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้เดินทางมาร่วมทำการสอบสวน นาย นายนาย
ชูไรดี ยะโก๊ะ อายุ 33 ปี หรือ บังหมวก ผู้ต้องหาในคดีฆ่า นส. นันทนา พิทักษา ด้วยตนเอง โดยมี พล.ต.ต ธนายุตม์
วุฒิจรัสธำรง รอง.ผบช.ภ.1 พล.ต.ต
สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1
พล.ต. สมหมาย ประสิทธิ์ ผบก.ภจว. สระบุรี
ร่วมทำการสอบสวน หลังจากนั้น
พร้อมคณะได้ออกมาแถลงการณ์จับกุมในครั้งนี้โดยไม่มีการนำตัวผู้ต้องหามานั่งแถลง
ด้าน พล.ต.อ. เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน
รอง.ผบ.ตร.(ปป) เผยกับผุ้สื่อข่าวว่า จากกรณีดังกล่าวนั้น ในเบื่องต้นทางผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุและฆ่าผู้ตายจริง
การฆ่าครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก
หลายเดือนที่ผ่านมา ผู้ตายและสามีผุ้ตายเคยมีเรื่องทะเลาะกันมาก่อนในเรื่องส่วนตัว
จนกระทั่ง สามีได้นำพวกมาทำร้ายตน ช่วงประมาณ 8 เดือน ที่ผ่านมา ช่วงดังกล่าวตัวผู้ต้องหายังเป็นเพื่อนกับสามีและผู้ตาย
ด้วย จากนั้นหลังเกิดเหตุ ผู้ต้องหาไปอยู่อยุธยากับเพื่อน ส่วน แฟนสาวเช่าห้องอยู่ข้างกัน
ในวันเกิดเหตุ ผู้ต้องหากลับมาบ้าน
แต่แฟนไม่อยู่ ตัวผู้ต้องหาจึงนอนในห้อง ขณะก่อนเกิดเหตุ วันที่ 28 กค. ผู้ต้องหากินเหล้าในห้องคนเดียว จากนั้น
ด้วยความแค้นส่วนตัวที่จดจำ จึงได้เดินมาที่ห้องคนตายเปิดประตูเข้าไป ในห้อง
แต่ว่าสามี คนตายไม่อยู่ พบเพียงผู้ตายอาบน้ำในห้องน้ำ ตนจึงเข้าไปและมีปากเสียงกัน
จนในที่สุดคนร้ายใช้มีดแทงผู้ตายเสียชีวิต จากนั้นหลบหนีไปอยุธยาจนมาถูกจับกุมตัว
---- หลังจากนั้นเมื่อทางคณะ
รอง.ผบตร. แถลงข่าวเสร็จ ญาติผู้เสียชีวิตนำกระเช้าดอกไม้มามอบเป็นกำลังให้เจ้าหน้าที่
ที่จับตัวคนได้เพีย 1 วัน
หลังจากนั้น พร้อมคณะเดินทางนำตัว
ผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ห้องเช่า โดยมีชาวบ้านมารอมุงดูจำนวนมาก
ขณะที่ตำรวจได้ใช้กำลังคอยอารักขาอย่าแน่นหนา
แต่ไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น
สมพงษ์ ปานรุ่ง สระบุรี/ภาพข่าว
จ.ส.อ.สุประวีณ์ บุญธิคำ /บรรณาธิการข่าว/รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น