
จ.สระบุรีเตรียมจัดงานย้อนตำนานสระบุรี
สืบสานประเพณีหนึ่งเดียวในโลก
งานประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษาและถวายเทียนพรรษาพระราชทานประจำปี 2562
ระหว่างวันที่ 15 – 17 กรกฎาคม 2562
เมื่อ2กรกฏาคม2562 นายแมนรัตน์
รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี พระครูศรีวรกิจจารักษ์
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาท เจ้าคณะอำเภอมวกเหล็ก นายชนัตถ์ นันทปัญญา
ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาและคณะผู้บริหารเทศบาลเมืองพุทธบาท นางเพชรรัตน์ เลิศรัตน์
ท้องถิ่นจังหวัดสระบุรี
พ.ต.อ.พารินท จันทร์เลิศ ผู้กำกับการตำรวจภูธรอำเภอพระพุทธบาท
ได้ร่วมกันแถลงข่าวและการเตรียมความพร้อมการจัดงาน “ย้อนตำนานสระบุรี
สืบสานประเพณีหนึ่งเดียวในโลก
งานประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษาและถวายเทียนพรรษาพระราชทานประจำปี ประจำปี 2562”
มีสื่อมวลชนเข้าร่วมงานแถลงข่าวเพื่อเผยแพร่กิจกรรมจำนวนมาก โดยวัตถุประสงค์ในการแถลงข่าวเพื่อบอกกล่าวงานบุญ
งานประเพณีสำคัญทางพระพุทธศาสนาของชาวสระบุรี ในประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา
ถวายเทียนพรรษาพระราชทานและประเพณีล้างเท้าพระ ณ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ วัดพระพุทธบาท
ราชวรมหาวิหาร อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี
สำหรับประวัติดอกเข้าพรรษาที่มาของประเพณี
ตามตำนานกล่าวไว้ว่าในสมัยโบราณนั้นพุทธศาสนิกชน มาทำบุญตักบาตรในวันพระขึ้น 15
ค่ำ เดือน 8 และนิยมทำบุญตักบาตรที่วัดพระพุทธบาทแห่งนี้ เป็นระยะเวลารวม 3 วัน
หากปีใดเป็นปีที่มีเดือน 8 สองหน จะถือเอาเดือน 8 หลัง แล้วไปทำบุญตักบาตรเข้าพรรษา
3 วัน และวันขึ้น 15 ค่ำเพ็ญกลางเดือน 8 ชาวบ้านในสมัยนั้น ช่วงเช้า
จะนำอาหารคาว-หวาน ไปทำบุญตักบาตรที่วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร
หลังจากทำบุญตักบาตรเสร็จแล้ว บรรดาหนุ่มๆสาวๆ จำนวนมากจะพากันเดินขึ้นไปบนภูเขา
"โพธิ์ลังกาและภูเขาพุกร่าง" ภูเขาที่อยู่ในพื้นที่อำเภอพระพุทธบาท
เพื่อหา ดอกไม้ชนิดหนึ่ง ชื่อดอกเข้าพรรษา จากนั้นจะนำมาจัดมัดเป็นกำๆ
พร้อมเสียบดอกไม้ธูปเทียนเตรียมใส่บาตรในวันรุ่งขึ้น คืนวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8
ซึ่งเป็นวันเข้าพรรษา พระภิกษุสงฆ์รับบิณฑบาตแล้วนำเอาดอกไม้ขึ้นไปบูชา
"รอยพระพุทธบาท" เมื่อเดินลงกลับมาอีกทางหนึ่ง
พุทธศาสนิกชนจะนำน้ำสะอาดใส่ภาชนะไปล้างเท้าพระสงฆ์และพระสงฆ์จะเข้าพระอุโบสถ
ปวารณาตลอดไตรมาส 3 เดือน ดอกเข้าพรรษาเป็นดอกไม้ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ
มีเฉพาะในพื้นที่อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี
มีชื่อเรียกตามศัพท์ของพรรณไม้เรียกว่า ดอกหงส์เหิน จะมีสีม่วงและสีขาว
ส่วนดอกสีเหลือง ชื่อดอกพวงทอง จะมีลำต้นคล้ายต้นข่าหรือต้นกระชายสูงประมาณ 1 ฟุต
มีหัวอยู่ใต้ดินคล้ายหัวกระชายอีกเช่นกัน
หลังเทศกาลเข้าพรรษาลำต้นจะโทรมลงเหี่ยวแห้งไปในที่สุด แต่ชาวบ้านเรียกกัน
ติดปากมาแต่สมัยโบราณว่า "ดอกเข้าพรรษา"
นอกจากนี้ยังออกดอกเฉพาะในช่วงเวลาใกล้เข้าพรรษาเท่านั้น
วันที่
14 กรกฎาคม 2562 - เวลา 07.30 น.
จัดพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม เทพยดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จำนวน
7 แห่ง - เวลา 09.30 น. พิธีถวายเทียนพระราชทาน ณ
พระอุโบสถ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร
วันที่
15 กรกฎาคม 2562 - เวลา 08.30 น. พิธีถวายเทียนพรรษา จังหวัดสระบุรี ณ ศาลาการเปรียญวัดพระพุทธฉาย ตำบลหนองปลาไหล
อำเภอเมืองสระบุรี - เวลา 13.00 น.
ร่วมพิธีเปิดงาน และชมขบวนแห่ถวายเป็นพุทธบูชา ชมขบวนพยุหยาตรา
ขบวนเจ้าเมืองสระบุรี ขบวนเทียนพรรษาพระราชทาน ขบวนเทียนพรรษาจังหวัดสระบุรี
ขบวนรถบุปผชาติ ขบวนวัฒนธรรม พร้อมการแสดงต่าง ๆ - เวลา 17.00 น.
พิธีเปิดงานย้อนตำนานสระบุรีสืบสานประเพณีหนึ่งเดียว
"ตักบาตรดอกเข้าพรรษา" จากนั้นขบวนอัญเชิญพระพุทธรูป
ขบวนพระสงฆ์ลงจากมณฑป พุทธศาสนิกชนประกอบพิธีล้างเท้าพระภิกษุสงฆ์
วันที่ 16-17 กรกฎาคม 2562 - เวลา 09.00 น.
พิธีตักบาตรดอกเข้าพรรษาและล้างเท้าพระภิกษุสงฆ์ ณ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร
อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี - เวลา 15.00 น.
พิธีตักบาตรดอกเข้าพรรษาและล้างเท้าพระภิกษุสงฆ์ ณ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร
อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี
จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนและพี่น้องประชาชน
ร่วมส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมที่สำคัญ ของจังหวัดสระบุรี ตามวัน เวลา
สถานที่ดังกล่าว เพื่ออนุรักษ์ "ประเพณีหนึ่งเดี ยวในไทย ใหญ่ที่สุดในโลก”
ให้คงอยู่สืบต่อไป
สมพงษ์ ปานรุ่ง สระบุรี /ภาพ/ข่าว
จ.ส.อ.สุประวีณ์ บุญธิคำ /บรรณาธิการข่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น