วันอังคารที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2567

นายมนตรี ปรีดา นายอำเภอแก่งคอย นำทีมลุยสกัดเหตุเพลิงไหม้บ่อขยะ  ที่ประชาชนเคยร้องเรียน ต้นเหตุปัญหา สร้างความเดือดร้อน ด้านมลพิษ ให้ชาวสระบุรี มาช้านาน บริเวณที่เพลิงไหม้ มีเนื้อที่ประมาณณ 1 ไร่ จากพื้นที่บริเวณกว่า 5 ไร่


            เมื่อ 7 กันยายน 2567 เวลา 15.30 น.นายมนตรี ปรีดา นายอำเภอแก่งคอย รายงานว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้บ่อน้ำชะขยะ  ของบริษัทบ่อเบตเตอร์เวิร์ลกรีน จำกัด หมู่ที่ 8 ต.ห้วยแห้ง อ.แก่งคอย สาเหตุเกิดจากไฟฟ้าช๊อตที่ตู้ไฟฟ้าสำรอง แล้วลุกลามติดคราบน้ำมันที่ลอยอยู่บนผ้าใบที่คลุมบ่อน้ำชะขยะ ของบริษัทบ่อเบตเตอร์เวิร์ลกรีน จำกัด หมู่ที่ 8 ต.ห้วยแห้ง อ.แก่งคอย บ่อมีพื้นที่ 5-6 ไร่ บริเวณที่เพลิงไหม้ มีเนื้อที่ประมาณณ 1 ไร่




             นายบัญชา  เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ได้สั่งการให้ นายมนตรี ปรีดา นายอำเภอแก่งคอย เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ร่วมกับนายวัฒนพงษ์ พงศ์กิจจาเลิศ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสระบุรี นายนิวัฒน์ กมลเพชร ปลัด อบต.ห้วยแห้ง กำนันผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ และผู้บริหารบริษัทเบตเตอร์ เวิร์ลกรีน และหน่วยงานที่ร่วมปฏิบัติ ทม.สระบุรี ทม.ทับกวาง ทม.แก่งคอย อบต.ห้วยแห้ง อบต.หนองปลาไหล อบต.กุดนกเปล้า อบต.ตาลเดี่ยว อบต.ชำผักแพรว บริษัท เบตเตอร์เวิร์ลกรีน จำกัด มูลนิธิร่วมกตัญญู สถานีตำรวจภูธรแก่งคอย กองร้อย อส.ที่ 3 อำเภอแก่งคอย เจ้าหน้า อปพร. อบต.ห้วยแห้ง รถดับเพลิง 14 คัน รถกู้ชีพกู้ภัย 2 คัน เจ้าหน้าที่ 100 คน ดำเนินการดับเพลิง ฉีดโฟมเคมี ควบคุมเพลิง จำกัดพื้นที่และเพลิงไหม้ เหลือเพียงเล็กน้อย และคาดว่าจะดับในช่วงเวลาไม่เกิน 18.00 น.พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่อาศัยพื้นที่ใต้ลม จำนวน 5 หมู่บ้าน (ม.8,3,6,10,7) ในตำบลห้วยแห้ง ประชาชน 100 หลังคาเรือนประมาณ 300 คน ทราบการป้องกันอันตราย บริษัทฯ ได้นำหน้ากากคาร์บอน เพื่อกรองฝุ่นขนาดเล็ก 5-10 ไมครอน แจกจ่ายในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ประสานสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษ ที่ 7 (สระบุรี) มาตรวจสอบคุณภาพอากาศ ต่อไป และให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ สามารถไปตรวจร่างกายได้ที่ รพ.สต.ห้วยแห้ง และ รพ.สต.หนองสองห้อง การควบคุมสถานการณ์สามารถควบคุมเพลิงดับ เวลา 17.40 น.ไม่มีผู้เสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บ จากการปฏิบัติงาน และนายอำเภอแก่งคอย ได้สั่งการให้บริษัทฯ จัดเวรยามเฝ้าระวังต่อไป






ร.ต.สุประวีณ์  บุญธิคำ บรรณาธิการข่าว รายงาน




 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น