.สระบุรีเปิดงานอย่างยิ่งใหญ่กับประเพณีล้ำค่าหนึ่งเดียวในโลก “งานประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา และถวายเทียนพรรษาพระราชทาน ประจำปี 2567”
เริ่มแล้ววันนี้กับงานย้อนตำนานสระบุรี สืบสานประเพณีหนึ่งเดียวในโลกกับประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษาและถวายเทียนพรรษาพระราชทานประจำปี 2567 และประเพณีล้างเท้าพระ ณ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร ที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าทรงธรรมนับเป็นประเพณีอันเก่าแก่ที่ควรแห่งการอนุรักษ์ยิ่ง เพราะหนึ่งปีมีหนึ่งครั้งมีเพียงแห่งเดียวที่ อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี จนชื่อว่า”เป็นประเพณีหนึ่งเดียวในโลก” โดยมีสื่อมวลชนพี่น้องพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทย และต่างประเทศเข้าร่วมงานจำนวนมากที่บริเวณถนนสายคู่วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี
พิธีได้เริ่มขึ้นในเวลา 16.30 น.โดยที่ขบวนพยุหยาตรา ขบวนเจ้าเมืองสระบุรี
ขบวนเทียนพรรษาพระราชทาน ขบวนรถบุปผชาติ
และขบวนขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมของชาวจังหวัดสระบุรี เคลื่อนขบวนผ่านเข้าสู่ถนนคู่เพื่อมุ่งหน้าเข้าสู่เข้าสู่ถนนลานธรรมจักร
สู่มณฑปรอยพระพุทธบาทโดยมีพี่น้องประชาชนนักท่องเที่ยวจำนวนมากยืนรอชมขบวน
พร้อมเก็บภาพที่ยิ่งใหญ่เต็มฝั่งสองข้างทาง
จากนั้นเวลา 19.00 น.เข้าสู่ช่วงการเปิดงานอน่างเป็นทางการ นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงาน จากนั้นนายสิทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้เป็นประธานกล่าวเปิดงานตักบาตรดอกเข้าพรรษา และถวายเทียนพรรษาพระราชทาน ประจำปี 2567 พร้อมนำพี่น้องพุทธศาสนิกชนร่วมตักบาตรดอกเข้าพรรษาเพื่อให้พระสงฆ์ได้นำดอกไม้นั้นไปบูชารอยพระพุทธบาทอีกต่อหนึ่งและประกอบพิธีล้างเท้าพระเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ซึ่งประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษาเป็นประเพณีสำคัญของชาวสระบุรีที่ทุกท่านไม่ควรพลาด ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องตักบาตรดอกเข้าพรรษา ที่วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลกับชีวิตสืบไป
หลังจากที่พระภิกษุสงฆ์เดินรับบิณฑบาตจากพุทธศาสนิกชนแล้ว
จะนำดอกเข้าพรรษาไปสักการะรอยพระพุทธบาท
ซึ่งเชื่อกันว่าจะส่งผลบุญให้ผู้ทำบุญตักบาตรได้ขึ้นสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
“ดอกเข้าพรรษา” หนึ่งปี จะออกดอกเพียงครั้งเดียว
เฉพาะในช่วงเทศกาลวันเข้าพรรษาเท่านั้น เมื่อถึงวันเข้าพรรษา คือวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี
ชาวอำเภอพระพุทธบาทจะพากันไปเก็บดอกเข้าพรรษาตามไหล่เขาโพธิลังกาหรือเขาสุวรรณบรรพต
เทือกเขาวง และเขาพุ ในเขตอำเภอพระพุทธบาท นำดอกเข้าพรรษามาจัดรวมกับธูปเทียนเพื่อใส่บาตรถวายพระ
สำหรับดอกเข้าพรรษาเป็นดอกไม้ที่รู้จักกันดีในจังหวัดสระบุรี
เพราะดอกเข้าพรรษาเป็นดอกไม้ที่จะออกดอกงดงามเพียงปีละครั้งในช่วงวันเข้าพรรษาเท่านั้น
จนดอกเข้าพรรษากลายเป็นสัญลักษณ์ที่บอกให้รู้ว่าวันเข้าพรรษาได้มาถึงแล้ว
และชาวจังหวัดสระบุรีก็จะนำดอกเข้าพรรษานี้มาใส่บาตร ทำให้เกิดเป็นประเพณี
“ตักบาตรดอกเข้าพรรษา” ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ซึ่งชาวอำเภอพระพุทธบาท
จังหวัดสระบุรี เชื่อกันว่า การตักบาตรดอกเข้าพรรษา ที่วัดพระพุทธบาทราชวรวิหาร
ซึ่งเป็นสถานที่ประดิษฐาน “รอยพระพุทธบาท” นี้
จะทำให้ได้บุญกุศลแก่ผู้ที่มาร่วมทำบุญ
ปัจจุบันการตักบาตรดอกเข้าพรรษากลายเป็นประเพณีที่รู้จักกันมากขึ้นของคนต่างถิ่น
และมีผู้คนเข้าร่วมร่วมประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษาที่จังหวัดสระบุรี
กันเป็นอย่างมาก จนเป็นอีกหนึ่งจังหวัดท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลเข้าพรรษานี้
สำหรับความหมายของดอกเข้าพรรษาตามความเชื่อทางพุทธศาสนาดอกเข้าพรรษา มี 3 สี ได้แก่ สีขาว หมายถึงความบริสุทธิ์แห่งพระพุทธศาสนา สีเหลือง หมายถึง สีแห่พะสงฆ์ ส่วนสีม่วง เป็นสีที่หายากที่สุด และชาวอำเภอพระพุทธบาทเชื่อกันว่าการใส่บาตรด้วยดอกสีม่วงได้บุญกุศลแรง ที่สุด นอกจากนี้ยังให้ผู้มาร่วมงานได้ล้างเท้าพระอีกด้วย
สำหรับงานประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษาจะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันนี้ 19 กรกฎาคม ไปจนถึงวันที่ 21 กรกฎาคม 2567
ณ.วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร สำหรับวันที่
20-21 กรกฎาคม 2567
จะมีพิธีตักบาตรดอกเข้าพรรษา และล้างเท้าพระวันละ 2 รอบ ในเวลา 09.00 น.และ
เวลา 15.00 น.
นอกตากนี่ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจภายในงาน เช่น นิทรรศการ ดอกเข้าพรรษา การแสดง ของดี ของเด่น แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดสระบุรี การแสดงวัฒนธรรมพื้นถิ่นการแสดงสินค้า OTOP และอื่นๆ อีกมากมาย จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน ร่วมส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมที่สำคัญ ของจังหวัดสระบุรี เพื่ออนุรักษ์ "ประเพณีหนึ่งเดียวในไทย ใหญ่ที่สุดในโลก” ให้คงอยู่สืบต่อไป
ร.ต. สุประวีณ์ บุญธิคำ บรรณาธิการช่าว รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น