จังหวัดสระบุรีจัดพิธีปลงผมนาคตามโครงการบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
วันเสาร์ที่
13 กรกฎาคม 2567 เวลา 15.00 น.ที่สำนักปฏิบัติธรรมสิริธรรมมุนี วัดศรีบุรีรตนาราม
ตำบลปากเพรียว อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี นายบัญชา เชาวรินทร์
ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธานในพิธีปลงผมตามโครงการบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
โดยมีพระราชวชิรมงคลวิสิฐ เจ้าคณะจังหวัดสระบุรี เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วย
พลตรีสมศักดิ์ รักษาแสง ผู้บัญชาการศูนย์การทหารม้า
พันเอกเพิ่มศักดิ์ ขุนโขลน รองผอ.รมน.สระบุรี พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช
รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี นาวาอากาศเอก ศาสตราจารย์ ธนากร
พีระพันธุ์ รองผู้อำนวยการสำนักบัณฑิตศึกษา โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช
นายยุทธนา โพธิวิหค ปลัดจังหวัดสระบุรี นายอำเภอ
หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดสระบุรีและประชาชนเข้าร่วมพิธี
โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ถวายดอกไม้ธูปเทียนแพ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก่อนจะถวายเครื่องสักการะแด่ประธานสงฆ์ และจากนั้นได้เริ่มพิธีปลงผม จำนวน 76 นาค โครงการบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่
หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ หรือ 72 พรรษา ในวันที่28 กรกฎาคม 2567
เนื่องในวาระอันเป็นมหามงคลสมัยพิเศษยิ่งนี้
รัฐบาลจึงเห็นสมควรดำเนินโครงการบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติและถวายพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้บุคลากรของรัฐ
ภาคีเครือข่ายภาคเอกชน
และประชาชนได้มีโอกาสร่วมแสดงความจงรักภักดีและถวายพระราชกุศล
รวมถึงได้ศึกษาเรียนรู้หลักธรรมในพระพุทธศาสนาและสามารถนำมาปรับใช้เป็นหลักในการประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
อันจะนำไปสู่การอยู่ในสังคมร่วมกันอย่างสันติสุข ทั้งนี้
การดำเนินโครงการเฉลิมพระเกียรติดังกล่าวสำหรับส่วนกลาง รัฐบาลโดย
วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินโครงการฯ และมีสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
และกรุงเทพมหานคร เป็นหน่วยงานร่วมดำเนินโครงการฯ สำหรับส่วนภูมิภาค
กระทรวงมหาดไทย สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
จะเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินโครงการฯ
ร.ต.สุประวีณ์ บุญธิคำ บรรณาธิการข่าว รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น