

วันนี้ (18 มกราคม 2566) เวลา 15.30 น. ณ ลานอเนกประสงค์ ศูนย์การทหารม้า จังหวัดสระบุรี พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพลของหน่วยทหาร ประจำปี 2566 เนื่องในโอกาสวันกองทัพบก และวันกองทัพไทย
วันนี้ถือว่าเป็นวันที่รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่ทรงกอบกู้เอกราชของชาติไทย นับได้ว่าวันนี้เป็นโอกาสสำคัญที่ข้าราชการทหารจะได้กระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล เนื่องจาก เป็นพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ที่เข้ารับราชการทหารจะต้องกระทำพิธีนี้ เพื่อความเป็นสิริมงคลตลอดชีวิตการรับราชการ สำหรับธงชัยเฉลิมพลนั้นเป็นสัญลักษณ์สำคัญของสถาบันสูงสุด ได้แก่ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
โดยในเวลา 14.55 น. ช่วงเวลาก่อนเข้าสู่พิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพลจะมีการแสดงจากโรงเรียนนายสิบทหารบก นำเสนอการแสดง ชุดศิลปะแม่ไม้มวยไทยและการสาธิตการใช้ศิลปะแม่ไม้มวยไทยในสถานการณ์การรบประกอบด้วย การไหว้ครูมวยไทย และการแสดงศิลปะแม่ไม้มวยไทยนักรบโบราณ
จากนั้น เวลา 15.25 น. วงดุริยางค์ นำแถวนายทหารที่กระทำสัตย์ปฏิญาณตนออกจากที่รวมพล กำลังพลสวนสนาม (กองผสม) เข้าประจำหน้าปะรำพิธี เวลา 16.00 น. ผู้บัญชาการทหารบก ออกจากห้องรับรองมายังลานพิธีเพื่อตรวจพลสวนสนาม หมู่เชิญธงเชิญธงชัยเฉลิมพลประจำหน้าปะรำพิธี เสร็จแล้วจึงเข้าสู่พิธีสงฆ์โดยนิมนต์พระสงฆ์ จาก วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร วัดชัยพฤกษมาลาราชวรวิหาร วัดมงคลชัยพัฒนา วัดเขาแก้ววรวิหารวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร วัดสุทธิวราราม วัดศรีสุดารามวรวิหาร และวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร จำนวน 10 รูป และพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล
โดย เวลา 16.40 น. ผู้บัญชาการทหารบกได้กรุณากล่าวนำปฏิญาณตน ให้โอวาทและอ่านสาส์นของผู้บัญชาการทหารสูงสุด หลังจากนั้นจึงเป็นการสวนสนามของกำลังพล ซึ่งในปีนี้ประกอบด้วยกรมสวนสนามจำนวน 4 กรม 16 กองพัน จัดกำลังจาก กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ กรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2 และกรมทหารปืนใหญ่ที่ 71 โดยมี พลตรี ณัฐเดช จันทรางศุ ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ เป็นผู้บังคับกองผสม
โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ให้โอวาทแก่เหล่าทหารที่ร่วมกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพลประจำปี 2566 " ขอให้ทุกท่าน ยึดมั่นและรักษาสัจจะวาจาที่ได้ให้ไว้อย่างเคร่งครัด ด้วยความตั้งใจแน่วแน่ ในการปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายอย่างเข้มแข็งเป็นทหารอาชีพที่มีเกียรติศักดิ์ศรี มีความแข็งแกร่งทั้งกายและใจ ตั้งมั่นในระเบียบวินัย ซื่อสัตย์สุจริต มีจิตสาธารณะ พร้อมทำความดี ช่วยเหลือผู้อื่น ร่วมมือร่วมใจเสริมสร้างกองทัพให้ก้าวหน้าเป็นปึกแผ่น สามารถยืนหยัดอย่างสง่างาม และเป็นกำลังหลักด้านความมั่นคงที่มีศักยภาพของประเทศชาติสืบไป"
ร.ต.สุประวีณ์ บุญธิคำ /บรรณาธิการข่าว รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น