สกรุ๊ปพิเศษ ทริปสายบุญ “ทัวร์เมืองเพรียวเที่ยว 9 วัด” เปิดแหล่งท่องเที่ยวในเมืองสระบุรี กับ “นายกเชน”
เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2565 นายธีรรัตน์ จึงยิ่งเรืองรุ่ง
นายกเทศมนตรีเมืองสระบุรี เป็น ประธานพิธีเปิดโครงการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
ในเขตเทศบาลเมืองสระบุรี “ทัวร์เมืองเพรียวเที่ยว 9 วัด” พร้อมด้วยคณะนายนฤพนธ์ อุตรพงศ์ ดร.วิทูล หนูยิ้มซ้าย
รองนายกเทศมนตรี นายบุดดี ทิณเสวก เลขานุการนายกเทศมนตรี นายยุทธนินทร์ สุวรรณอำไพ
ปลัดเทศบาลเมืองสระบุรี นายสุวิชา ศิริบุญ ประธานสภาเทศบาลเมืองสระบุรี นางวรรณภา
อุ่นอารมณ์ รองประธานสภาฯและ
สมาชิกสภาเทศบาล ทีมพลังปากเพรียว ทั้ง 3 เขต พร้อม หัวหน้าส่วนราชการ
ร่วมกับพระปลัดนิวัฒน์ อภิญจโน เจ้าคณะตำบลปากข้าวสาร เจ้าอาวาสวัดเชิงเขา พร้อมด้วยคณะสงฆ์วัดเชิงเขา
ประกอบพิธีเปิดโครงการเป็นแห่งแรก จากนั้นคณะได้
เดินทางไปเปิดจุดท่องเที่ยวอีก 8 วัด ริมแม่น้ำป่าสัก โดยมี เจ้าอาวาสและคณะสงฆ์ของแต่ละวัด คณะครูโรงเรียนในสังกัดเทศบาลเมืองสระบุรี ประธานและกรรมการชุมชนและประชาชนในพื้นที่มาเข้าร่วมกิจกรรม
ร่วมทำ พิธีเปิดแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ร่วมแนะนำจุดเด่นของแต่ละพื้นที่
โดยทางเทศบาลเมืองสระบุรี ได้กำหนดปักหมุดเช็คอินท์ไว้อย่างสวยงามทั้ง 9 จุด ง่ายต่อการค้นหา
โดยเริ่มจากจุดเช็คอินท์ที่ 1 วัดเชิงเขาดเชิงเขาเดิมเป็นวัดเล็กๆในเมืองสระบุรีที่ต่อมาได้รับความเมตตาจากหลวงพ่อรวยปาสาทิโกแห่งวัดตะโก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แพร่พลังศรัทธามายังชาวจังหวัดสระบุรีและพื้นที่ใกล้เคียง วัดเชิงเขาเป็นวัดที่มีโครงการก่อสร้างยิ่งใหญ่อลังการมากโดยเฉพาะพระมหาธาตุเจดีย์ปาสาทิโก
พระธาตุเชิงเขาที่ออกแบบได้ซับซ้อนและยิ่งใหญ่มากเป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นบนภูเขาโดยมีความสูงถึง
5 ชั้นมีรูปหล่อหลวงพ่อรวยหน้าตักกว้าง 7เมตรและหลวงพ่อแก้วประทานพรที่สร้างด้วยเนื้อทองเหลืองที่ปิดด้วยทองคำแท้ประดิษฐานอยู่ภายในวิหารและภายในเจดีย์มีถ้ำที่มีการติดไฟส่องสว่างหลากสีสันพร้อมด้วยมีน้ำตกจำลองอันสวยงาม ซึ่งมีจุดเด่นของวัดให้กับท่องเที่ยวเข้าสักการะ เช่น พระมหาธาตุเจดีย์ ปาสาทิโก หลวงพ่อแก้วประทานพร วิหารหลวงพ่อรวย หลวงพ่อสองพี่น้อง ถ้ำวัดเชิงเขา น้ำตกจำลองเป็นต้น
จุดที่ 2. วัดศาลาแดง เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศหรือพระพุทธรูปสี่มุมเมืองซึ่งมีอยู่ 4 องค์ในประเทศไทย ถูกจัดสร้างขึ้นเมื่อปีพศ. 2311 เรียกว่าวัดแก่งม่วงโดยมีต้นมะม่วงขึ้นอยู่บนแก่ง เป็นสัญลักษณ์มาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา จะต้องมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกป้องขอบขัณฑสีมาทั้ง 4 ทิศโดยการสร้างพระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ เป็นการสร้างพุทธรูปแบบ จตุรพุทธปราการ เพื่อปกป้องภยันตรายจากอริราชศัตรู ปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายเสริมสร้างดวงชะตาแก่บ้านเมืองและคุ้มครองพสกนิกรนทั้งมวลให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข ซึ่ง จุดเด่นของวัดจึง มีพระวิหารพระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศองค์หลวงพ่อทันใจ ปู่ฤาษีชีวกโกมารภัจจ์ และปู่ฤาษีนารอด ควาย 3 เขา วังมัจฉาริมแม่น้ำป่าสักเป็นต้น
จุดที่3. วัดบ้านอ้อยตั้งอยู่บนถนนเทศบาล 7 สร้างเมื่อพ.ศ 2325 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พศ. 2452 โดยมีพระประจำวัด คือหลวงพ่อขาวซึ่งมีเรื่องเล่าต่อๆกันมาว่าเมื่อครั้งก่อนสมัยกรุงศรีอยุธยามีผู้ที่มีบุญมากได้สร้างพระพุทธรูปหลวงพ่อขาวขึ้นเพื่อสักการะบูชากันเป็นเวลานานสืบเนื่องต่อกันมามากกว่า 200 ปีและเป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์ประจำวัดบ้านอ้อยมาจนถึงทุกวันนี้นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นคือศาลาท่าน้ำและศูนย์นวดแผนไทยชุมชนบ้านอ้อย 1 (อสม.) เทศบาลเมืองสระบุรี ซึ่งมีจุดเด่นของวัดคือวิหารหลวงพ่อขาวศูนย์ นวดแผนไทยชุมชนบ้านอ้อย 1 และวังมัจฉาริมแม่น้ำป่าสัก
จุดที่ 4. วัดบ้านบึงเดิมที ขึ้นอยู่กับตำบลนาโฉง อำเภอเมืองจังหวัดสระบุรีสมัยก่อนมีชาวรามัญอพยพมาทางเรือ ขึ้นทางท่าน้ำซึ่งชาวบ้านแถวนั้นเรียกว่า ท่าควาย ประกอบกับที่ดินตรงนั้นเป็นบึงและเป็นที่ว่างเปล่าจึงเห็นว่าที่ตรงนั้นเหมาะสำหรับเอาดินมาปั้นเป็นอิฐ และอยู่ห่างจากแม่น้ำป่าสักประมาณครึ่งกิโลเมตรชาวมอญ จึงได้พากันมาตั้งสร้างวัดขึ้นเมื่อ ปีพศ. 2324 จึงตั้งชื่อว่าวัดบ้านบึงจุดเด่นของวัดมีวิหารหลวงพ่อดำ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองโดยเชื่อกันว่าถ้าได้อธิษฐานขอสิ่งใดกับหลวงพ่อดำจะสมหวังดังปรารถนา
จุดที่ 5. วัดเจดีย์งาม สร้างขึ้นประมาณพ.ศ 2122 เดิมชื่อว่าวัดเจดีย์หักเพราะมีสร้างเจดีย์ซึ่งปรักหักพังอยู่บนเนินเขาสมัยรัชกาลที่ 2 และได้รับการปฏิสังขรณ์ขึ้นมาใหม่อีกครั้งต่อมาในสมัยจอมพลป.พิบูลสงครามได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดเจดีย์งามในปีพศ. 2483 จุดเด่นของวัด มีพระบรมสารีริกธาตุเจดีย์สีทองพระสังกัจจายน์
จุดที่ 6. วัดดาวเรือง เดิมชื่อวัดดาวเสด็จ ตั้งอยู่ตรงข้ามคนละฝั่งแม่น้ำป่าสัก กับ กรมทหารจังหวัดสระบุรี (ปัจจุบัน กองพันทหารม้าที่ 11 กรมทหารม้าที่4รักษาพระองค์) ต่อมาเมื่อพ.ศ 2370 ได้ย้ายเสนาสนะมาสร้างใหม่ ณ ที่ตั้งปัจจุบัน ซึ่งเป็นที่ราบริมแม่น้ำป่าสัก เกิดภัยแล้งขาดน้ำในการบริโภค จึงได้ตั้งชื่อใหม่ ตามสถานที่ตั้งว่า วัดดาวเรือง โดยการนำของหลวงพ่อแหย่ง ซึ่งเป็นเจ้าอาวาส ในสมัยนั้น พ.ศ 2370 และชาวบ้านหมู่บ้านดาวเรืองได้ร่วมกันสร้างเสนาสนะเพื่อใช้เป็นที่พักสงฆ์วัดดาวเรืองได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปีพ.ศ 2381 จุดเด่นของวัด มีวิหารหลวงพ่อแดงวิหารหลวงพ่อสมบูรณ์ท้าวเวสสุวรรณเรือเจ้าแม่พรายสมุทร(เรือโบราณ)จุดชมวิวท่าน้ำริมแม่น้ำป่าสัก
8. วัดศรีบุรีรตนาราม หรือวัดเพียวสันนิษฐานว่าสร้างราวปีพ.ศ 2492 เดิมชื่อว่าวัดม่วงงามเป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองสระบุรีที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ครั้งหนึ่งองค์พระแก้วมรกตเคยมาประดิษฐานพักอยู่ที่วัดแห่งนี้ก่อนที่จะอัญเชิญเข้าสู่กรุงเทพฯตลอดจนมีพระพุทธรูปนามว่าหลวงพ่อพุทโธวัดนี้จะมีลักษณะเด่นที่ตัวฐานของอุโบสถซึ่งจะมีรูปแบบคล้ายเรือสำเภาที่มีความสวยงามอย่างมาก จุดเด่นของวัด มีวิหารหลวงพ่อพุทโธ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองปากเพรียว วิหารพระแก้วมรกตองค์จำลองอุโบสถสถาปัตยกรรมรูปทรงเรือสำเภา
ร.ต.สุประวีณ์ บุญธิคำ /บรรณาธิการข่าว /รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น