สระบุรี – เพลิงไหม้ ร้าน SRB เฟอร์นิเจอร์กลางเมืองสระบุรี
เสมียนร้าน ปีนหลังคาหนีตายรอดหวุดหวิด
เมื่อเวลา 03.20 น. เช้ามืดวันที่ 28 ก.พ.2565 ร.ต.อ.อมรศิลป์ มณีศิริ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองสระบุรี ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ร้านจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ ริมถนนพหลโยธิน ตรงข้ามตลาดสดสืบศิริ เขตเทศบาลเมืองสระบุรี จึงรายงานเหตุให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และแจ้งเจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงเทศบาลเมืองสระบุรี กว่า 50 นาย พร้อมรถดับเพลิง กว่า 10 คัน เข้าพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมคณะ ผู้บริหารฯมอบหมายให้ สท.ภวัต พรมวัฒ สท.จักรกฤษณ์ เคนทวาย สท.สุรนาท เปรมปรี สมาชิกสภาเทศบาลเมืองสระบุรี เข้าอำนวยการประสานงาน พร้อมด้วย พ.ต.อ.เชษฐ์ เชษฐศิริ ผ.ก.ก.สภ.เมืองสระบุรี และอาสาสมัครกู้ภัยสว่างรัตนตรัยธรรมสถานสระบุรี เข้าปิดการจราจร
จุดเกิดเหตุเพลิงไหม้เป็นร้าน”ฟรีฟอร์มเฟอร์นิเจอร์”
จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่เลขที่ 303-305 ติดกันตึก 3 ชั้น 4 คูหา
มีเสียงคนร้องขอความช่วยเหลือ อยู่ภายในร้าน (ชั้นล่าง)
แต่ไม่สามารถเข้าใกล้เพื่อทำการเปิดประตูได้เนื่องจากมีเปลวไฟลุกไหม้มีกลุ่มควันพวยพุ่งออกมา
ทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่ต้อง ปิดการจราจร
และกันประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องให้ถอยห่างเนื่องจากที่เกิดเหตุอยู่ฝั่งตรงข้าม
ตลาดสด (เช้า) ที่มีพ่อค้า-แม่ค้า และ ประชาชน-ยวดยานพาหนะของผู้มาจ่ายตลาดจอดเต็มไปหมด
จากนั้นจึงได้ทำการช่วยกันใช้ขวานมาตัดลูกกุญแจ เนื่องจากเข้าไปฉีดน้ำไม่ได้ พอตัดลูกกุญแจออก
มีกลุ่มควันออกมาเป็นจำนวนมาก
ทำให้เจ้าหน้าที่บางคนแสบตา เนื่องจากไฟได้ไหม้เฟอร์นิเจอร์หมดแล้ว จึงได้ทำการฉีดน้ำสกัด เพลิงชั้นล่าง เพลิงได้ประทุลุกลามขึ้นไปยังชั้น
2-3 ของร้านที่เป็นพื้นไม้ เปลวเพลิงได้พุ่งออกทางหน้าต่าง
ทั้งด้านหน้าและด้านหลังร้านอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ต้องเรียก รถน้ำ
และรถกระเช้าของเทศบาลเมืองสระบุรี มาเสริม เพื่อฉีดน้ำดับเพลิงที่กำลังโหมกระหน่ำ
เจ้าหน้าที่ อีกชุดได้อ้อมไปทางด้านหลัง เพื่อสกัดเพลิงลุกลามสู่ชุมชนด้านหลังที่มีบ้านเรือนหนาแน่น
จึงขอความร่วมมือจากเจ้าของร้านตัดเย็บเสื้อผ้าชื่อ ฮิปปี้ ของนายวิชัย มูลจันทร์ และอาคารใกล้เคียง เพื่อนำสายดับเพลิงเข้าไปในบ้านทะลุออกทางด้านหลังร้าน
เพื่อสกัดเพลิงป้องกันการลุกลาม โดยใช้เวลากว่า 1.30
ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ และเจ้าหน้าที่ ต้องเฝ้าระวังการเกิดเพลิงประทุซ้ำจนเช้าฟ้าสาง
แต่เฟอร์นิเจอร์ทรัพย์สินอื่นๆ ถูกไฟไหม้เกลี้ยง
ส่วนผู้ที่ติดอยู่ภายใน
ซึ่งร้องเรียกขอความช่วยเหลือนั้นได้ใช้ความพยายามช่วยเหลือตนเองด้วยการชกหลังคา
หนีตายออกมาได้ทางด้านหลังร้าน บาดเจ็บที่มือเล็กน้อย ทราบชื่อ นายอานนท์
เรืองเนตร อายุ 35 ปี เป็นเสมียนที่นอนเฝ้าร้านดังกล่าว
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายอานนท์ เสมียนผู้ดูแลร้าน ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่นำตัวมาให้การช่วยเหลือดูแลอยู่บนรถปฐมพยาบาลของกู้ภัยฯ เล่าว่า ตนเองนอนเฝ้าร้านอยู่คนเดียว ตนไม่ทราบว่าเกิดไฟไหม้เวลาไหน พอตื่นขึ้นมาก็เห็นไฟกำลังลุกไหม้อยู่พอดี ซึ่งตนหาที่ออกมาภายนอกไม่ได้ จึงได้ใช้มือพังบริเวณหลังคาโดยให้มือดันไปที่กระเบื้องจนทำให้มือตนเองได้รับบาดเจ็บ จากนั้นได้ปีนออกมา ซึ่งตนตกใจมาก เกือบเอาชีวิตไม่รอด ซึ่งตนพยายามหาทางออกเพื่อหนีเอาชีวิตรอดเพียงอย่างเดียว ตนเองต้องล็อกกุญแจไว้ทั้งหมด 3 ด้าน แลไม่สามารถที่จะหยิบกุญแจออกมาเปิดได้ นาย อานนท์ เผยทั้งน้ำตาว่าตนเองดีไจมากที่หนีออกมาได้ ซึ่งตนเองอยู่ภายในคนเดียว ซึ่งทางเจ้าของ บริษัท สยามชัย อยู่ที่กรุงเทพฯ ซึ่งตนเป็นเสมียนดูแลร้านสาขาสระบุรี ตนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสาเหตุที่ไฟไหม้เกิดจากอะไร ซึ่งตอนเกิดเหตุไฟและควันไฟได้ลุกท่วมแล้วตนไม่สามารถที่จะเปิดประตูหน้าออกมาได้ ตนจึงได้ทุบกระเบื้องหลังคาหนีเพื่อเอาชีวิตรอดหากหลังคาเป็นเมทัลชีทแบบด้านหน้าตนคงไม่รอดแน่
พ.ต.อ.เชษฐ์ชัย เชษฐศิริ ผ.ก.ก.สภ.เมืองสระบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ สามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดไม่ให้ลุกลามไปยังข้างเคียงได้แล้ว ที่เป็นห่วงคือบริเวณด้านหลังเป็นชุมชนหนาแน่น แต่สาเหตุที่เกิดไฟลุกไหม้นั้น ต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบหาข้อเท็จจริงก่อนจึงจะระบุได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร สำหรับค่าเสียหายอยู่ระหว่างตรวจสอบเช่นเดียวกัน
CR: พระราม 3 /ภาพ
ร.ต.สุประวีณ์ บุญธิคำ/บรรณาธิการข่าว /รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น