วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2563


สระบุรี-ทำประชาพิจารณ์ สร้างโรงงานเชือดไก่ หวิดปะทะเดือด



            เมื่อ (30 มิ.ย.63 ) บริษัท สยามเซ็นทาโกฟาร์ม จำกัดได้จัดทำประชาพิจารณ์  ประชุมรับฟังความคิดเห็นชาวบ้านพื้นที่ ม.1 ต.ปากข้าวสาร อ.เมือง จ.สระบุรี การก่อสร้างโรงงานชำแล่ะเนื้อไก่สำเร็จรูป ในพื้นที่ ต.หนองยาว ต.ปากข้าวสาร อ.เมือง จ.สระบุรี
            ขณะที่ สส (.นก) กัลยา  รุ่งวิจิตรชัย  สส.สระบุรี เขต 1 ได้เดินทางมา พร้อมกลุ่มชาวบ้าน ที่นำโดย นายประธีป  นิลมูล ผญบ.ม.3 ต.หนองยาว อ.เมือง จ.สระบุรี และนางแสวง  นุ้ยเพียร ชาวบ้าน ม.1 ต.ปากข้าวสาร กลุ่มประชาชนในพื้นที่รอบพื้นที่ ที่จะจัดสร้างโรงงานดังกล่าว ได้เดินทางมาร่วมสังเกตุการณ์ แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในการต่อต้านดังกล่าว กว่า 300 คน โดยมี เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครองเข้าดูแลความสงบเรียบร้อย



ขณะที่ประชาชนกลุ่มต่อต้านทยอยกันมาแน่นวัด ต้องจอดรถไว้ที่ริมถนน พหลโยธิน จำนวนมากแต่หลังจากเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงว่า เป็นการทำประชาพิจารณ์ ของเอกชนกับชาวบ้าน หมู่ 1 ตำบลปากข้าวสาร และได้ขออนุญาตถูกต้อง และปิดประตูเหลือไว้ช่องเข้าเข้าออกทางเดียว ไม่ให้กลุ่มดังกล่าวเข้าร่วมรับฟังเพราะพื้นที่จำกัด  เมื่อกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านมากันเป็นจำนวนมากและไม่ได้ขออนุญาต ตาม พรบ.การชุมนุม ส.ส (.นก) กัลยา  รุ่งวิจิตรชัย  สส.สระบุรี เขต 1 จึงขอร้องให้กลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางกลับ จนกลุ่มผู้ชุมนุมได้ทยอยเดินทางกลับ แต่ยังคงมีเหลือกลุ่มต่อต้านอยู่บางส่วน ประมาณ 50 คน ยังคงเกาะติดเฝ้าสังเกตการณ์
ม๊อบชนม๊อบหวิดปะทะ

            ในขณะเดียวกัน ได้มี กลุ่มบุคลประมาณ 30 คนนำโดยนายสุรเดช  บุญประเสริฐ แกนนำ ถือป้ายเดินเข้ามาในพื้นที่วัดปากข้าวสารใต้โดยเขียนข้อความ มาขอความช่วยเหลือ จาก สส.นก กัลยา ให้ช่วยดูแล กรณีปัญหาบ่อขยะ ของบริษัทแห่งหนึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวตำบล หนองปลาไหลมาเป็นเวลานาน ทำไมสส.ไม่ดูแล  แต่การกล่าวปราศรัย  ไม่ได้เป็นดั่งป้ายที่เขียนมา แต่เป็นการกล่าวโจมตีการทำงาน ของ สส.ในพื้นที่ อ้างว่าเคยบุกไปพบ สส.ที่ทำเนียบก็ไม่ได้รับความสนใจ แต่ดันมาต่อสู้ช่วยเหลือ แต่เรื่องโรงงานไก่  ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมต้านโรงเชือดไก่ ที่เหลืออยู่ประมาณ 50 คนไม่พอใจ โต้เถียงปะทะคารมกัน  เจ้าหน้าที่ต้องคอยกันคนแต่ละกลุ่มออกจากกัน  บางคนตะโกนให้กลุ่มถือป้าย ลองอ่านป้ายภาษาไทยให้ฟังหน่อย ว่าอ่านได้มั้ย เป็นคนไทยหรือปล่าว เป็นต้น  

เวลา 16.40.น.   บริษัท สยามเซ็นทาโกฟาร์ม จำกัด ได้เริ่มการประชุม ชี้แจงรายละเอียดโครงการ แสดงตัวอย่างการจัดการ โรงงานในเครือของบริษัทในพื้นที่ต่างจังหวัด โดยมีนาย ทิพย์ มานุพีรพันธ์ ผู้บริหารสยามเซ็นทาโกฟาร์ม และเจ้าหน้าที่ คอยตอบคำถาม ชี้แจงหลายประเด็น การจัดการและความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อม การจัดตั้งสวัสดิการ การจัดการผลกระทบของบริษัทต้องไม่ให้เกิดกับชุมชน   แล้วเปิดให้แสดงความคิดเห็น มีผู้แสดงความคิดเห็น โดยเปิดเสียงออกไปด้านนอก ท่ามกลางเสียโห่ ของกลุ่มบุคลที่อยู่ด้านนอกห้องประชุม และพร้อมตะโกน อ้างว่า ผู้ที่มาทำประชาพิจารณ์เป็นคนนอกพื้นที่  ไม่ใช่ ชาวบ้านหมู่ที่ 1 ต.ปากข้าวสาร ยังไม่ได้เข้าร่วมรับฟัง เพราะถูกกีดกันไม่ให้เข้า ยังอยู่ด้านนอก
ช่วงแรก มี ชาย สวมเสื้อสีเหลือง อ้างว่าชื่อ ประภวิษณุ์ หน่อคำหล้า  ได้ลุกขึ้นอ่านคำถามจากโทรศัพท์ เป็นข้อๆ  อาทิ ทำไมจึงสร้างในพื้นที่สีเขียวได้  : “ เจ้าหน้าที่ตอบ “ ตามกฎหมายผังเมือง โรงงานแปรรูปไก่สร้างได้ในผังเมืองทุกสี โดยผ่านการคัดกรองว่าจะไม่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ชุมชน , การชำแหละหรือใช้ประโยชน์จากไก่ทุกชิ้นส่วนหรือไม่ : ทุกชิ้นส่วนใช้จนหมด (พร้อมนำตัวอย่างขนไก่บดเพื่อทำอาหารสัตว์ให้ผู้เข้าร่วมประชุมดู) , ผลประโยชน์ที่ชาวบ้านจะได้รับ : สร้างงาน รับคนในพื้นที่เข้าทำงาน จัดร้านค้าภายในโรงงานเป็นต้น
ระหว่างการประชุม นายดำดี ควรชม อายุ 65 ชาวบ้านหมู่ 7 ต.หนองยาว ซึ่งเป็นเจ้าของที่นาบริเวณต.หนองยาวที่อยู่ใกล้พื้นที่ที่คาดว่าจะได้ผลกระทบด้านน้ำเสียจากโรงงาน ได้ลุกขึ้นสอบถามและแสดงความคิดเห็นและไม่เชื่อว่าเป็นคนในพื้นที่จริงๆ เพราะไม่เห็นมี ผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้านที่รับผิดชอบประชาชนชาว หมู่ที่1 ต.ปากข้าสาร มาร่วมรับฟังแม้แต่คนเดียว จึงเป็นการทำประชาพิจารณ์ที่ไม่ถูกต้อง และไม่เห็นด้วยกับการตั้งคำถาม โดยการให้มีการยกมือเฉพาะผู้ไม่เห็นด้วยกับการก่อสร้างโรงงานเท่านั้น แต่ไม่ตั้งคำถามและให้ยกมือของฝ่ายที่เห็นด้วยกับการก่อสร้างโรงงานดังกล่าว
ระหว่างเจ้าหน้าที่พิธีกร ขอประชามติ โดยเชิญปลัดอำเภอ กำนัน ผญบ. ขึ้นมาเป็นสักขีพยาน (แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ขึ้นไป  โดยมี ผู้เข้าร่วมประชุม คนหนึ่ง แสดงความคิดเห็นขอให้ลงมติลงคะแนนแบบเลือกตั้ง  แต่เจ้าหน้าที่ได้ชี้แจง และให้มีการนับคะแนน ผู้แจ้งว่ามีผู้ร่วมลงทะเบียน 413 คน  และถามผู้ที่ไม่เห็นให้ยกมือขึ้น ปรากฏว่า มีผู้ยกมือไม่เห็นด้วย จำนวน  4 คน เจ้าหน้าที่พิธีกร จึงแจ้งว่ามีผู้ไม่เห็นด้วย 4 คน  ที่เหลือ 409 เห็นด้วย 409 คน จากผู้ลงทะเบียน 413 คน พร้อมปิดการประชุมทันที


 คุณป้า บุกโวย ต่อว่า คงมาผิดงาน ไม่เห็นมีคนบ้านเดียวกัน””””””

มีคุณป้าอ้างว่า เป็นคน หมู่ที่ 1 ต.ปากข้าวสาร แล้วโวยว่า  นึกว่ายาย มาผิดงานเพราะยัง ไม่เห็นมีคนในหมู่บ้าน หมู่ที่1 ในนี้ ถึง 20 คนเลย  แล้วถามผู้เข้าร่วมประชุมคนหนึ่ง ว่าคุณมาจากไหน ..........ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ กันออกไป



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น