อสค.
แถลงข่าวโชว์ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมอุตสาหกรรมนมไทย อย่างยิ่งใหญ่
ชูแนวคิด “เทศกาลโคนมแห่งชาติ
ประจำปี 2563” วันที่ 29 มกราคม-9 กุมภาพันธ์ 2563
---- ส่วนที่ จังหวัด สระบุรี อ.ส.ค. เตรียมจัดงานเทศกาลโคนมแห่งชาติ
ประจำปี 2563 อย่างยิ่งใหญ่
ชูแนวคิด “รักนม รักฟาร์ม สืบสาน รักษา ต่อยอด โคนมอาชีพพระราชทาน” เพื่อน้อมรำลึกถึง
พระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9
ที่พระราชทานอาชีพการเลี้ยงโคนม
และสืบสานพระราชปณิธาน พัฒนาอุตสาหกรรมโคนมไทยยุคใหม่ เพื่อก้าวสู่แบรนด์นมแห่งชาติ” โดยงานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 ม.ค.-9 ก.พ. 63
ณ บริเวณเชิงเขาตาแป้น อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี

----- ---- ด้าน นางสาว มนัญญา ไทยเศรษฐ์
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ได้เดินทางมาร่วมงานแถลงข่าวโชว์ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมอุตสาหกรรมนมไทย อย่างยิ่งใหญ่
ชูแนวคิด “เทศกาลโคนมแห่งชาติ
ประจำปี 2563” พร้อม กล่าวว่า เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
(ในหลวงรัชกาลที่ 9)
ที่พระองค์ได้พระราชทานอาชีพการเลี้ยงโคนมให้แก่ปวงชนชาวไทยและแสดงความก้าวหน้าของวิทยาการด้านการเลี้ยงโคนมและอุตสาหกรรมโคนมของประเทศ
ตลอดจนเผยแพร่ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนยีการเกษตรสมัยใหม่ไปสู่เกษตรกร โดยกิจกรรมจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 มกราคม-9 กุมภาพันธ์ 2563 โดยเป็นงานที่ทาง
อ.ส.ค.ขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เป็นประจำทุกปี ณ บริเวณเชิงเขาตาแป้น อำเภอมวกเหล็ก
จังหวัดสระบุรี

------ ---
โดยปีนี้จะจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “รักนม รักฟาร์ม สืบสาน รักษา ต่อยอด
โคนมอาชีพพระราชทาน”
ซึ่งมีกิจกรรมในงานที่สำคัญ อาทิ สัมมนาวิชาการ, นิทรรศการด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการเกษตร, การสาธิตและการจัดแสดงผลงานวิจัยด้านการพัฒนาโคนมและอุตสาหกรรมโคนมโดยได้รับความร่วมมือจาก
ภาครัฐ และภาคเอกชน, บูธออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และมีการเปิดให้ผู้เข้าร่วมงานได้ลองชิมผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ครสชาติใหม่ๆ,
การประกวดแข่งขันโคนมประเภทต่างๆ , การออกร้านจำหน่ายสินค้า
OTOP และสินค้าที่เกี่ยวกับการเกษตรต่างๆ, สัมผัสบรรยากาศฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค , การเปิดให้เยี่ยมชมโรงงานผลิตนมไทย-เดนมาร์ค
, ชมสาธิตการรีดนมโค
และการทำปุ๋ยนมสดจากผู้เชี่ยวชาญของฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค
และกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เลยคือ งาน Thai-Denmark Milksic
Festival ครั้งที่ 3 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2563
พบปะกับศิลปินต่างๆมากมาย เป็นต้น
--- --- โดย วันที่ 29 มกราคม 2563 ชาวโคนมยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า
กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดงานพร้อมทั้งจะเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรนิทรรศการต่างๆ
ภายในบริเวณงานอีกด้วย ขณะที่ โคนมอาชีพพระราชทาน
เป็นอาชีพอันทรงคุณค่าที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ทรงพระราชทานไว้ให้แก่เกษตรกรไทย ด้วยทรงเล็งเห็นว่าอาชีพการเลี้ยงโคนมจะทำให้ชาวไทยได้บริโภคอาหารที่มีคุณค่าทั้งยังสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรไทยได้มีอาชีพที่มั่นคงและยั่งยืนในด้านการรณรงค์การบริโภคนมของคนไทย
ได้มุ่งเน้นการสร้างวัฒนธรรมการบริโภคนมในสังคมไทยให้เพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มเด็ก
เยาวชน และคนรุ่นใหม่เพื่อเป็นการเสริมสร้างโภชนาการและสุขอนามัยที่ดี
ซึ่งทางกระทรวงเกษตรฯ ก็ได้มีการมอบนโยบายแก่ อ.ส.ค. มาโดยตลอด
ในเรื่องการตอกย้ำเพื่อสร้างการรับรู้ในการบริโภคนม
เพื่อกระตุ้นให้เยาวชนไทยหันมาดื่มนมกันมากขึ้น โดยมีเป้าหมายการเพิ่มปริมาณจาก 18
ลิตร/คน/ปี เป็น 25 ลิตร/คน/ปี ภายในปี 2569
ซึ่งนอกจากการบริโภคนมคุณภาพดีที่ได้มาจากเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมของไทย
นอกจากจะเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนคนไทยมีสุขภาพที่ดีแล้ว
ยังเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของกระทรวงเกษตรฯ
ในการสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมไทย
และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางภาคการเกษตร
ตามวิสัยทัศน์ของรัฐบาลในการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมนมไทยให้พัฒนายิ่งขึ้นไปอีกด้วย

-------- ด้าน ดร.ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ
ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) กล่าวว่า วันที่ 17
มกราคมของทุกปีเป็นวันโคนมแห่งชาติซึ่งเป็นวันสำคัญยิ่งต่ออาชีพและเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในประเทศไทย
โดย อ.ส.ค.ได้ให้ความสำคัญในการรณรงค์ส่งเสริมการบริโภคนมในประเทศอย่างต่อเนื่องซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ที่ต้องการให้คนไทย ทุกเพศ ทุกวัยรักการดื่มนมมากขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์นมที่ผลิตจากนมโคสดแท้ 100%
ที่ได้จากเกษตรกร
เนื่องจากเห็นว่านอกจากจะส่งเสริมสุขภาพที่ดีกับให้คนไทยแล้ว ยังเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรให้มีรายได้มั่นคงในการประกอบอาชีพโคนมอีกด้วย
โดย
อ.ส.ค.
มุ่งสร้างแหล่งความรู้ด้านกิจการโคนมและอุตสาหกรรมนมอย่างครบวงจรให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมทั่วประเทศไทยถือเป็นพันธกิจหลักของ
อ.ส.ค. ที่ผ่านมา อ.ส.ค. ได้จัดทำแผนแม่บทส่งเสริมการเลี้ยงโคนม 4.0 ซึ่งปัจจุบัน
อ.ส.ค อยู่ระหว่างดำเนินการภายใต้แผนวิสาหกิจ 5 ปี (2560-2564)
โดยมุ่งส่งเสริมความรู้เกษตรกรเพื่อพัฒนาคุณภาพน้ำนมดิบ
พร้อมกับสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับน้ำนมดิบและหาช่องทางขายใหม่ ๆ
ทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งมีการพัฒนายกระดับประสิทธิภาพการผลิตน้ำนมดิบให้ได้มาตรฐาน
พร้อมวิจัย พัฒนาและเผยแพร่องค์ความรู้การเลี้ยงโคนมให้กับเกษตรกร
ตลอดจนส่งเสริมเกษตรกรสมาชิกให้มีความมั่นคงและเติบโตในอาชีพการเลี้ยงโคนม
---- --
นอกจากนี้ อ.ส.ค.
ยังได้จัดตั้งโครงการศูนย์การเรียนรู้และถ่ายทอดการศึกษาการเลี้ยงโคนมในโรงเรียนแห่งแรกของประเทศไทยที่จังหวัดสกลนคร
พร้อมเปิดหลักสูตร“ห้องเรียนศาสตร์พระราชา”โดยมีวิชาหลักคือวิชาการผลิตโคนม
เพื่อการส่งเสริม
สนับสนุนให้มีการสานต่ออาชีพการเลี้ยงโคนมจากรุ่นสู่รุ่นโดยการสร้างเยาวชนให้มีความสนใจและภาคภูมิใจในอาชีพการเลี้ยงโคนมซึ่งเป็นอาชีพพระราชทาน
ควบคู่กับการส่งเสริมและพัฒนาการเลี้ยง
การผลิต
การแปรรูปภายใต้เทคโนโยลีและนวัตกรรมใหม่ๆที่ทันสมัยแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมให้เทียบเท่ากับมาตรฐานสากล
ทั้งนี้เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมโคนมไทยให้เป็นที่ยอมรับระดับนานาชาติและสืบสานแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
บรมนาถบพิตรให้มีความมั่นคง ยั่งยืนสืบไป
จ.ส.อ.สุประวีณ์ บุญธิคำ /0944311315/บรรณาธิการข่าว/รายงาน
สมพงษ์ ปานรุ่ง ภาพ/ข่าว จ. สระบุรี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น