วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2562




พสกนิกรชาวจังหวัดสระบุรีร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลและพิธีน้อมรำลึกเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร


       วันนี้ (13 ต.ค. 62) เวลา 07. 30 น.ที่บริเวณศูนย์ราชการจังหวัดสระบุรี ตำบลตะกุด อ.เมือง จ.สระบุรี นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี นำส่วนราชการ พี่น้องประชาชน ชมรมฯ และพสกนิกรชาวจังหวัดสระบุรีทุกหมู่เหล่าร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลและร่วมทำบุญตักบาตร พระสงฆ์ 89 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
































         จากนั้นในเวลา 09.00 น.นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ได้นำส่วนราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ รัฐวิสาหกิจ องค์กร สมาคม ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมพิธีถวายบังคมและวางพวงมาลาเพื่อแสดงความจงรักภักดีและรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร



 จากนั้นได้ร่วมกันจัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาวัดมงคลชัยพัฒนา ​ ทำความสะอาดปลูกต้นไม้และปล่อยปลา​ ทาสี​ จัดปรับตัวหนอนในลานวัด








เวลา19.20น.ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีนำหัวหน้าส่วนราชการจุดเทียนชัยน้อมรำลึกเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตที่หอประชุมศูนย์ราชการจังหวัด











   ทั้งนี้พสกนิกรทุกหมู่เหล่าพร้อมใจกันใส่เสื้อสีเหลืองมาร่วมพิธีกันอย่างพร้อมเพรียงเพื่อน้อมสำนึกในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร  ทรงมีพระทัยอันยิ่งใหญ่และเปี่ยมด้วยพระเมตตา ต่อพสกนิกรชาวไทย โดยเฉพาะจังหวัดสระบุรี พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร  ได้เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจถึง 14 โอกาส นอกจากนี้ยังได้พระราชทานอาชีพเลี้ยงโคนมในพื้นที่แห่งนี้ ซึ่งถือเป็นต้นกำเนิดตำนานคาวบอยเมืองไทย ที่เกิดจากพระราชวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของพระองค์ ที่ทรงเล็งเห็นว่าอาชีพการเลี้ยงโคนมจะช่วยให้ชาวไทยได้บริโภคอาหารที่มีคุณค่า อีกทั้งยังช่วยให้เกษตรกรไทยได้มีอาชีพที่มั่นคงและเป็นหลักแหล่ง จึงก่อเกิด "อาชีพโคนม” อาชีพพระราชทานที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรไทยมายาวนานและยั่งยืน และนอกจากนี้ยังได้พระราชทานแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในพื้นที่บริเวณวัดมงคลชัยพัฒนา จังหวัดสระบุรี เพื่อเป็นแนวทางการแก้ไขให้รอดพ้น และสามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างพออยู่พอกิน อันเป็นจุดกำเนิดของทฤษฎีใหม่แห่งแรกในประเทศไทย













จ.ส.อ.สุประวีณ์  บุญธิคำ /บรรณาธิการข่าว /รายงาน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น